บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงกว่า 4% ในวันพุธ และปิดตลาดลบราว 4 เหรียญฯต่อบาร์เรลมาอยู่ที่ 95.18 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล เป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ.54 ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ กดดันราคาน้ำมันให้ร่วงลง
ทั้งนี้ นักลงทุนจะต้องทำใจในหุ้นพลังงาน หากราคาน้ำมันยังทรุดต่อและปิดสิ้นงวดต่ำกว่า 110 เหรียญฯ (ราคาน้ำมันดิบดูไบปิดงวดก่อน)ไปมากจะส่งผลกระทบให้เกิด Stock Loss ในหุ้นกลุ่มพลังงาน ดังนั้น การเข้าซื้อต้องรอ
อนึ่ง ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(15 มิ.ย.)ที่ 94.81 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง4.56 ดอลลาร์ หรือ 4.59%
พร้อมระบุว่า สิ่งพึงคำนึงถึงสำหรับ บมจ.ปตท.(PTT) เวลานี้คือ ราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงและอาจทำให้ต้องบันทึก Stock Loss สูงในไตรมาสที่ 2/54 พื้นฐานยังคงแนะนำ"ซื้อ"ต่อไป ราคาเป้าหมาย 410 ทางกลยุทธ์หุ้นอาจทรุดสู่แนวรับ 326 บาท แนะนำรอซื้ออ่อนตัวอาศัยจังหวะการปรับตัวลงตามตลาดโลกในวันนี้ พร้อมเชื่อว่าหุ้นทั้งกลุ่ม PTT จะฟอร์มตัวดีขึ้นตามสภาพตลาดหลังผลการเลือกตั้งชัดเจน
นอกจากนี้ PTT จะหยุดซ่อมบำรุงโรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 5 ในเดือนมิ.ย. และหยุดซ่อมบำรุงโรงแยกก๊าซฯ หน่วยที่ 6 ในเดือนก.ค.-ส.ค. ตามแผนงาน (One-Year Warrantee Inspection) การหยุดซ่อมโรงแยกก๊าซดังกล่าว จะทำให้การนำเข้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (ก๊าซหุงต้ม:LPG) ในช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ค. เพิ่มขึ้นเป็นราว 1.5 แสนตัน/เดือน จากปกติที่มีการนำเข้าราว 1.1 แสนตัน/เดือน การหยุดซ่อมดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อผลประกอบการของ PTT บ้างคาดว่า EBITDA ลดไปไม่เกิน 1,500 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนที่ต่ำต่อทั้งยอดขายและกำไร
วานนี้(15 มิ.ย.)หุ้น PTT ปิดที่ 334 บาท ลดลง 5 บาท(-1.47%)