นางสาวเปรมภาว์ หิตะพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน บมจ.เอสทีพี แอนด์ ไอ(STPI) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์" ว่า รายได้ในปี 54 คาดว่าบริษัทจะรับรู้จำนวนไม่เกิน 1 พันล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 4.8 พันล้านบาท จากปัจจุบันที่มีงานในมือแล้วประมาณ 3.2 พันล้านบาท หลังจากเพิ่งได้งาน Module โรงแยกก๊าซในรัฐควีนสแลนด์ ประเทศออสเตรเลีย มูลค่า 3 พันล้านบาท ระยะเวลา 2 ปี โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือน ต.ค.นี้
ทั้งนี้ คาดว่ารายได้ในครึ่งปีหลังจะกระเตื้องขึ้นมาจากที่เริ่มการเตรียมงานให้กับงาน Module โรงแยกก๊าซ ตั้งแต่เดือน มิ.ย.นี้ ขณะที่ รายได้ในไตรมาส 1/54 มีรายได้เพียง 30 ล้านบาท ส่วนรายได้ในไตรมาส 2/54 ยังประเมินยาก เพราะรอเก็บเงินจากลูกค้าอยู่ ซึ่งไม่ทราบว่าจะได้มากน้อยอย่างไร นอกจากนี้ ยังมีงานเล็กๆเข้ามาโครงการละ 20-30 ล้านบาท
"ทั้งปีไม่น่าจะเป็นสีแดง(ขาดทุน) ส่วนรายได้ไม่น่าจะถึง 1 พันล้านบาท" นางสาวเปรมภาว์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม รายได้ในปีหน้าจะดีขึ้น จากงานในมือที่ทยอยรับรู้เป็นรายได้เข้ามาเต็มปี รวมถึงงานใหม่ที่ขณะนี้บริษัทกำลังจะเข้าประมูลงาน LNG Plant ในออสเตรเลีย แยกเป็น 2-3 งาน รวมมูลค่ามากกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากมูลค่าทั้งโครงการ 5 หมื่นล้านบาท แม้ว่าจะมีคู่แข่งไม่มาก แต่ก็เป็นคู่แข่งน่ากลัว โดยมาจากเกาหลีและจีน
สำหรับการจ่ายเงินปันผลในงวดปี 54 นางสาวเปรมภาว์ กล่าวว่า ขึ้นอยุ่กับการประมูลงานใหญ่ในปลายปีนี้ เพราะหากตัดสินใจจ่ายเงินปันผลไปเกรงว่าจะมีปัญหา ทำให้ขาดเงินทุนเพื่อรองรับงานขนาดใหญ่ และยังต้องสำรองไว้กรณีไปเป็นหลักฐานในการเข้าประมูลงานด้วย
"ต้องรอผลการประมูลงาน...กลัวจ่ายไปแล้วมีปัญหา cashflow เราค่อนข้างดีเราจะต้องเก็บไว้เพื่อที่เวลาลูกค้าให้กรอกตัวเลขเมื่อเวลาประมูลงาน เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นลูกค้ารายใหญ่แล้วเรากรอก cashflow ค่อนข้าง stable ฐานะการเงินมั่นคงมาก เขาก็มีโอกาสจะพิจารณาเรา" นางสาวเปรมภาว์ กล่าว
ราคาหุ้น STPI เช้านี้ปรับตัวขึ้นไป 4.02% มาที่ 23.30 บาท บวก 0.90 บาท