ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 มิ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขสร้างบ้านที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ปรับตัวลดลงในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ หลังจากที่ประชุมรมว.คลังยูโรโซนยังไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการมาตรการช่วยเหลือกรีซครั้งใหม่
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดีดขึ้น 64.25 จุด ปิดที่ 11,961.52 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 2.22 จุด ปิดที่ 1,267.64 จุด แต่ดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 7.76 จุด ปิดที่ 2,623.70 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 4.1 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วนเกือบ 1 ต่อ 1
ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 มิ.ย. ร่วงลง 16,000 ราย สู่ระดับ 414,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 420,000 ราย
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 3.5% ต่อปี สู่ระดับ 560,000 ยูนิต มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 540,000 ยูนิต ส่วนตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างบ้านเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 8.7% ต่อปี สู่ระดับ 612,000 ยูนิต มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 560,000 ยูนิต
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลงมากเกินคาด และตัวเลขสร้างงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้นั้น ช่วยให้นักลงทุนผ่อนคลายจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจ โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนักหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมด้านการผลิตในรัฐนิวยอร์ก หรือดัชนี Empire State ร่วงลงเกือบ 20% สู่ระดับ 7.79 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว และยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 12 จุด เนื่องจากห่วงโซ่อุปทานในภาคการผลิตของสหรัฐยังคงได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายโดยรวมยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของกรีซ หลังจากที่ประชุมรัฐมนตรีคลังของประเทศยูโรโซนยังไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องข้อสรุปในแผนการช่วยเหลือทางการเงินครั้งใหม่สำหรับกรีซ ซึ่งทำให้ต้องมีการจัดประชุมอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
หุ้นโฮมดีโปท์ อิงค์ ปิดบวก 1.8% หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการสร้างบ้านที่ดีเกินคาด ขณะที่หุ้นโครเกอร์ โค ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ต ปิดบวก 4.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ที่สูงเกินคาด
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนนี้ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนมิ.ย.และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ค.