ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบถ้วนหน้าเมื่อคืนนี้ (16 มิ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการเมืองและปัญหาหนี้สินของกรีซ หลังจากนายจอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีกรีซประกาศว่า เขาจะปรับคณะรัฐมนตรีและจะจัดประชุมเพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรลงมติไว้วางใจรัฐบาลชุดใหม่ ขณะที่แผนการให้ความช่วยเหลือกรีซครั้งใหม่ยังคงไร้ทิศทาง หลังจากที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือกรีซ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.5% ปิดที่ 266.73 จุด และดัชนี FTSEurofirst 300 ปรับตัวลง 4.52 จุด หรือ 0.42% ปิดที่ 1,084.47 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวลง 4.88 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 7,110.20 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 7,017.98-7,111.64 จุด และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสร่วงลง 14.54 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 3,792.31 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,743.97-3,795.48 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองและการเงินของกรีซ หลังจากนายกรัฐมนตรีกรีซประกาศว่าจะปรับคณะรัฐมนตรีและจะจัดประชุมเพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรลงมติไว้วางใจรัฐบาลชุดใหม่ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกรีซยังพยายามทำข้อตกลงกับพรรคฝ่ายค้าน โดยมีเป้าหมายที่จะเพื่อผลักดันมาตรการรัดเข็มขัดให้มีความคืบหน้ามากพอที่จะขอรับความช่วยเหลือครั้งใหม่จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู)
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีพยายามผลักดันให้มีการบังคับใช้มาตรการรัดเข็มขัด แม้มาตรการดังกล่าวส่งผลให้ชาวกรีซนับหมื่นคนออกมาชุมนุมประท้วงตามท้องถนนในกรุงเอเธนส์ และเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตาม
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงตามราคาโลหะทองแดง นิกเกิล และตะกั่วในตลาดลอนดอน โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน ปิดร่วง 1.8% หุ้นลอนมินปิดลบ 3.4% หุ้นเอ็กสตราต้าปิดลบ 0.8%
หุ้นเลนซิง เอจี ซึ่งเป็นบริษัทผลิตไฟเบอร์สิ่งทอของออสเตรีย ปิดร่วง 2.7% หลังจากบีแอนด์ซี อินดัสทรีโฮลดิ้ง จีเอ็มบีเอช ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของเลนซิง ประกาศขายหุ้นมูลค่า 619 ล้านยูโร
หุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลงหลังจากอังกฤษเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ร่วงลงเกินคาดในเดือนพ.ค.โดยหุ้นคิงฟิชเชอร์ร่วงลง 1.5% หุ้นเทสโก้ร่วงลง 1.7%หุ้นคาร์ฟูร์ปิดร่วง 3.5%