โบรกฯเชียร์"ซื้อ"ADVANC ได้ non-voice ดันกำไรโตตลอดปี-Q3 เปิด 3G หนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 17, 2011 09:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ต่างเห็นพ้องแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC)จากผลประกอบการและฐานะการเงินแข็งแกร่ง มองกำไรปี 54 เติบโต 7% จากปีก่อน จากบริการ non-voice ที่เติบโตตามกระแสความนิยม Social Network และสมาร์ทโฟน ขณะที่ธุรกิจ voice ก็ยังเติบโตได้ โดยเฉพาะช่วงการเลือกตั้งที่มีการใช้งานสูงขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทจะเปิดให้บริการ 3G บนคลื่นเดิม ในไตรมาส 3/54 และไตรมาสแรกของปีหน้าคาดว่าจะมีการประมูลใบอนุญาต 2.1 GHz หลังได้คณะกรรมการ กสทช. อีกทั้ง ADVANC มีจุดเด่นที่อัตราผลตอบแทนการจ่ายเงินปันผลยังสูงประมาณ 8-9%

ส่วนราคาหุ้น ระยะหลังขยับขึ้นหลังจากเข้าสู่การเลือกตั้ง และประเด็นการติดตามทวงค่าเสียหายจากการแก้ไขสัญญาสัมปทาน 7.3 หมื่นล้านบาททำท่าจะเงียบหายไป เชื่อว่าไม่เป็นปัจจัยลบ และราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside สูงจากราคาเป้าหมาย

          โบรกเกอร์          คำแนะนำ          ราคาเป้าหมาย(บาท)
          บล.ดีบีเอสฯ          ซื้อ                122.00
          บล.กิมเอ็ง           ซื้อ                119.00
          บล.บัวหลวง          ซื้อ                118.00
          บล.กรุงศรีอยูธยา      ซื้อ                115.00
          บล.เอเชียพลัส        ซื้อ                110.26

นายประสิทธิ์ สุจิวรกุล นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า แนะ"ซื้อ"หุ้น ADVANC เพราะกำไรในไตรมาส 1 และ ไตรมาส 2 ยังเติบโตได้ดี และคาดว่าในไตรมาส 3/54 และไตรมาส 4/54 จะยังรักษากำไรเติบโตต่อเนื่องได้ โดยเฉพาะการเติบโตของรายได้ non-voice ที่คาดว่าปีนี้จะเติบโต 20-30%จากปีก่อน เติบโตจากการใช้ social media และยังมียอดขายสมาร์ทโฟนเติบโตด้วย ขณะที่รายได้จาก voice เติบโต 3% จากปีก่อน

และหลังจากมีการเลือกตั้ง หุ้น ADVANC ปรับตัวขึ้นมาจากการที่ความเสี่ยงกรณีรัฐให้บริษัทจ่ายค่าความเสียหายจากการแก้ไขสัญญาสัมปทานลดลงไป ประกอบกับ ความชัดเจนการคัดเลือกคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) โดยคาดว่า ในไตรมาส 1 ปี 55 น่าจะได้คณะกรรมการ กสทช.ชุดแรก และสามารถจะเปิดประมูลใบอนุญาต 2.1 GHz ซึ่งต่อไปก็จะปรับราคาที่รวมธุรกิจ 3G ด้วย

"เรามองว่าประเด็นเรื่องรัฐตามค่าความเสียหายสัญญาสัปมทานเงียบไปประมาณ 2-3 เดือนแล้ว เป็นตัวหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าไม่มีอะไรที่จะทำให้หุ้นไม่ขึ้น จะไม่กลับมาเป็นข่าว ปัจจัยลบตรงนี้จะเงียบไป"นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง กล่าว

ด้านนางสาวปิยะธิดา สนธิสมบัติ นักวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มกำไรสุทธิของ ADVANC ในปีนี้จะเพิ่มขึ้น และยิ่งจะเปิดให้บริการ 3G ในไตรมาส 3/54 จะทำให้มีผลประกอบการดีขึ้น ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นในอุตสาหกรรมเดียวกัน ได้แก่ DTAC และ TRUE จะเห็นว่า ADVANC จะโดดเด่นกว่ารายอื่น ทั้งการเติบโตของผลประกอบการ การจ่ายเงินปันผลที่สูง และ ราคายังมี upside มากกว่า

หลังบริษัทเปิดสถานีฐาน 3G เพิ่มจาก 130 แห่ง เป็น 1,884 แห่ง ในไตรมาส 3/54 คาดจะช่วยผลักดันการเติบโตของรายได้บริการด้านข้อมูลได้ดีขึ้น โดยรวมแล้วจึงคาดว่ากำไรปี 2554 จะเติบโตได้ต่อเนื่องในอัตรา 7% yoy ราคาหุ้นปัจจุบันยังมี upside อยู่ 21% บวกกับคาดการณ์เงินปันผลสำหรับงวด 1H54 ในอัตรา 4 บาท หรือคิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล (dividend yield) ในงวดดังกล่าวราว 4.1% โดยคาดเงินปันผลรวมทั้งปี 2554 ในอัตรา 8.50 บาท หรือคิดเป็น dividend yield 8.6%

บล.เอเชียพลัส ระบุว่า ADVANC เป็นบริษัทที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลปกติไม่ต่ำกว่า 100% ของกำไรสุทธิ ทำให้มี Dividend Yield สูงเฉลี่ยราว 9% ขณะที่มูลค่าพื้นฐานภายใต้สัมปทานปัจจุบัน 109.47 บาท ก่อนหักความเสี่ยงหาก ADVANC ต้องจ่ายค่าเสียหาย 7.3 หมื่นบาทให้ TOT ตามที่ TOT เรียกร้องสำหรับกรณีการแก้ไขสัมปทานที่ทำไว้กับ TOT 9 ครั้งไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และทำให้ TOT สูญเสียประโยชน์

โดยในกรณีเลวร้ายหาก ADVANC แพ้คดีและต้องจ่ายเสียหายดังกล่าวข้างต้น มูลค่าพื้นฐานจะลดลง 25.29 บาทต่อหุ้น และหากศาลสั่งให้ ADVANC กลับไปจ่ายส่วนรายได้ระบบเติมเงินที่ 30% จากปัจจุบันที่จ่ายเพียง 20% เท่านั้น ซึ่งกระทบต่อ Fair Value เพิ่มขึ้นอีก 6.13 บาท รวมทั้งหมดราว 31.4 บาท ส่งผลให้มูลค่าพื้นฐานหุ้นภายใต้สัมปทานปัจจุบัน หลังหักค่าความเสี่ยหายทั้งหมดจะเท่ากับ 78.05 บาท

แต่เมื่อบวกประโยชน์จากใบอนุญาต 3G บนคลื่นความถี่ใหม่ ที่คาดว่า ADVANC จะประมูลได้ในกลางปี 2555 และเริ่มให้บริการในต้นปี 2556 ภายใต้สมมติฐานโอนลูกค้าจากสัมปทานปัจจุบันไปใบอนุญาตใหม่ครบ 100% ภายใน 5 ปี ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าเพิ่มฐานของหุ้นเพิ่มขึ้น 32.21 บาท ทำให้ Fair Value ของ ADVANC โดยรวมอยู่ที่ 110.26 บาท ยังเหลือ Upside 11.9% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ