นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้บังคับบัญชาสายงานวิจัย บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้น่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบๆเคลื่อนไหวในวงจำกัด ปริมาณการซื้อขายอยู่ในระดับกลางๆ เนื่องจากมีความกังวลปัจจัยต่างประเทศกดดดันอยู่ แม้ว่าข้อมูลทางเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนจะออกมาดี แต่ปัญหาในประเทศแถบยุโรป โดยเฉพาะโครงสร้างทางการเงินของประเทศกรีซยังไม่ชัดเจนว่าจะผ่านไปได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ยังมีมุมมองในทิศทางบวกกรณีการแก้ไขปัญหากรีซ โดยเชื่อว่าการแก้ปัญหาจะผ่านไปได้ในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุดที่ต้องติดตาม ดังนั้น แนะนำนักลงทุนให้เลือกหุ้นเพื่อลงทุนรายตัวรอรับข่าวเรื่องกรีซ
กรอบการลงทุนวันนี้ให้แนวรับที่ 1,010-1,015จุด แนวต้าน 1,025-1,030 จุด
ขณะที่บทวิเคราะห์ ของบล.เอเชียพลัส ระบุว่า ความเสี่ยงจากการปรับโครงสร้างหนี้ในกรีซยังกดดันตลาดหุ้นโลก แต่คาดว่าจะได้รับแรงหนุนของนักลงทุนสถาบันในประเทศจากความต้องการซื้อกองทุนระยะยาว(LTF)เพื่อประหยัดภาษี และ การทำ window dressing น่าจะหนุนให้ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1010-1040 จุดในระยะสั้น ๆ ซึ่งอาจจะเป็นโอกาสของนักลงทุน ทั้งที่ต้องการลงทุนระยะสั้น และยาวโดยยังยืนยันให้ถือหุ้นในพอร์ต 40% ของเงินลงทุนรวม แนะนำ ซื้อลงทุนระยะ 1-3 เดือน
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(16 มิ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 11,961.52 จุด เพิ่มขึ้น 64.25 จุด (+0.54%)ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 64.25 จุด เพิ่มขึ้น 2.22 จุด(+0.18%)ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,623.70 จุด ลดลง 7.76 จุด(-0.29%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,660.95 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ปิดที่ 94.95 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.15%
- หุ้นทั่วโลกดิ่ง 1-2% รวมถึงดัชนีหุ้นไทย เหตุนักลงทุนกังวลวิตกกรีซผิดนัดชำระหนี้เพราะเกรงปัญหาอาจจะลุกลาม ประกอบกับสหรัฐรายงานข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนตัวเกินคาด ด้าน "จรัมพร โชติกเสถียร" เชื่อแรงซื้อต่างชาติจะกลับตลาดหุ้นไทยหลังเลือกตั้งจบ ทีมคุมนโยบายเศรษฐกิจชัด เผยระหว่างนี้ตลาดจะผันผวน แรงซื้อดีดกลับแค่ระยะสั้น พร้อมเผยยังไม่ได้รับรายงานการซื้อขายที่ผิดปกติของหุ้นการเมือง
- บอร์ดค่าจ้างกทม. นัดสรุปขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำอีกครั้ง 28 มิ.ย.นี้ คาดว่าจะปรับขึ้น 5-9 บาท/วัน ตามค่าครองชีพที่สูงขึ้น ขณะที่ฝ่ายลูกจ้างเรียกร้องให้ปรับค่าจ้างให้เท่ากัน ทั่วประเทศ ระบุการปรับขึ้น 9 บาท ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
- ธปท.ขาดทุนยับเยิน 1.17 แสนล้านหลังโดดเข้าแทรกแซงค่าเงินบาทอย่างหนัก โดยการรายงานงบการเงินปี 2553 ซึ่งเป็นงบของฝ่ายกิจการ ธปท. ไม่เกี่ยวข้องกับทุนสำรองเงินตรา กิจการธนบัตรและกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พบว่ามีผลขาดทุนสุทธิสูงมากจากการเข้าแทรกแซงค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่ามากเกินไปสุทธิ 1 แสนล้านบาท
- "ทักษิณ" ประกาศกลับไทยใน ธ.ค.นี้ร่วมงานแต่งลูกสาว มาแปลกระบุเหลือเงินแค่สามหมื่นล้านบาท มั่นใจน้องสาวเป็นนายกฯ