หุ้น TONHUA ราคาขยับขึ้น 2.86% มาอยู่ที่ 5.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท มูลค่าซื้อขาย 4.55 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.26 น. โดยเปิดตลาดที่ 5.40 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 5.55 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 5.35 บาท
แหล่งข่าววงในบมจ.ตงฮั้ว คอมมูนิเคชั่นส์(TONHUA)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้น TONHUA มีการเทรดกันอย่างคึกคักและต่อเนื่อง บางวันก็มีรายการบิ๊กล็อตด้วย ทำให้มีนักลงทุนและผู้ถือหุ้น รวมถึงทางตลาดหลักทรัพย์สอบถามเข้ามามาก แต่จนบัดนี้ขอยืนยันว่าทางบริษัทฯไม่ได้ดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับตัวหุ้น และยังคงทำธุรกิจตามปกติ
ดังนั้น จากความไม่ปกติที่เกิดขึ้นทำให้ผู้บริหารของบริษัทฯ สั่งให้มีการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ เพื่อตรวจสอบโครงสร้างผู้ถือหุ้นว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่
"ที่ผ่านมาทั้งราคาหุ้น TONHUA และมีรายการบิ๊กล็อตมาหลายครั้ง แต่จากการสอบถามผู้บริหาร รวมถึงกรรมการ และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ต่างก็ยังคงถือหุ้นตามปกติ และไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งแม้แต่ทางตลาดหลักทรัพย์ก็เร่งให้มีการชี้แจงตรงนี้ แต่ทางเราก็ไม่รู้จะชี้แจงอะไร เพราะไม่มีอะไรจะชี้แจง ดังนั้นผู้บริหารจึงมีคำสั่งให้ปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น โดยมีคำสั่งมาเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ทางตลาดหลักทรัพย์บอกให้ชี้แจงด้วย แต่กว่าจะดำเนินการได้ก็ต้องเป็นวันที่ 20 มิ.ย.นี้ที่จะมีการปิดสมุดทะเบียนฯได้ และกว่าจะรู้ผลก็ประมาณช่วงบ่ายวันที่ 21 มิ.ย. ซึ่งก็คงจะมีการแจ้งให้ตลาดฯทราบอีกทีด้วย"แหล่งข่าว TONHUA กล่าว
แหล่งข่าว TONHUA กล่าวอีกว่า ปัจจุบันกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯยังคงถือหุ้นอยู่กว่า 50% และจำนวนหุ้น TONHUA ที่เทรดอยู่ในตลาดฯก็มีประมาณ 25% ของทุนชำระแล้ว ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนดไว้
สำหรับผลประกอบการในปี 54 บริษัทฯคาดว่ามีกำไรที่เติบโตต่อเนื่องจากปี 53 ที่มีกำไรสุทธิ 1.2 หมื่นบาท ส่วนโครงการใหม่ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ ก็ยังอยู่ในไลน์เดียวกับการผลิตหนังสือพิมพ์ตงฮั้ว เป็นลักษณะคล้ายกับการเพิ่มอีก 1 Section ขึ้นมาก็เท่านั้น
วานนี้(16 มิ.ย.)มีรายการบิ๊กล็อตหุ้น TONHUA 1 รายการ จำนวน 1,130,000 หุ้น มูลค่าซื้อขาย 5.65 ล้านบาท เทรดในราคาเฉลี่ย 5.00 บาท/หุ้น
ล่าสุด เมื่อ 31 มี.ค.54 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรกของ TONHUA คือ นางกัลยาณี กยาวัฒนกิจ ถือหุ้น 37.67%, EFG BANK AG ถือหุ้น 10.42%, นายกมลพรรธน์ เมฆวรวุฒิ ถือหุ้น 9.53%, บริษัท สาครและบุตร จำกัด ถือหุ้น 5.00% และบริษัท ดอกเบี้ย จำกัด ถือหุ้น 4.69%