นายสติ ศังขวณิช กรรมการผู้จัดการ บมจ.อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง หรือ AMANAH(ชื่อเดิมบมจ.นวลิสซิ่ง)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายสินเชื่อแตะ 10,000 ล้านบาทภายใน 3 ปี โดยปี 54 มีเป้าหมายจะปล่อยสินเชื่อ 2,500 ล้านบาท และปีหน้าจะเพิ่มเป็น 5,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯได้ปรับทิศทางการดำเนินงานใหม่ตามความต้องการของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ibank)ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ต้องการจะให้บริษัทฯยกระดับการปล่อยสินเชื่อให้ดีขึ้น จากเดิมสมัยที่เป็น บมจ.นวลิสซิ่ง จะเน้นปล่อยสินเชื่อให้กับตลาดระดับล่างที่ให้ผลตอบแทน(yield)ประมาณ 20% ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อซื้อรถเก่าอายุประมาณ 10 ปีและรถกระบะ ฐานลูกค้าเป็นกลุ่มผู้ที่ธุรกิจส่วนตัว
แต่ปัจจุบันบริษัทฯจะหันมาปล่อยสินเชื่อซื้อรถที่มีอายุไม่เกิน 10 ปีมากขึ้น เนื่องจากให้ yield ประมาณ 8-9% และฐานลูกค้าก็จะเป็นกลุ่มที่มีรายได้ประจำเป็นหลัก และในอนาคตเมื่อบริษัทฯมีทุนมากขึ้นแล้วค่อยเข้าไปแข่งขันกับตลาดระดับบนที่ให้ yield 4-5%
นอกจากนี้ บริษัทฯยังมุ่งเน้นที่จะปล่อยสินเชื่อรถใหม่ ประเภทรถตู้สาธารณะที่ให้ yield ประมาณ 10% โดยตั้งแต่ต้นปีได้ปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 400 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วน 70% เป็นรถใหม่ประเภทรถตู้สาธารณะ ส่วนอีก 30% เป็นสินเชื่อกับรถใหม่ทั่วไปและรถมือสอง รวมถึงรับจำนำทะเบียนรถ
ปัจจุบัน บริษัทฯมีพอร์ตสินเชื่อทั้งสิ้น 1,400 ล้านบาท โดยช่วงที่เหลือของปีนี้ยังปล่อยสินเชื่อได้อีก 2,100 ล้านบาท
"บริษัทฯได้ยกระดับขึ้นมาตามความต้องการของแบงก์อิสลาม ที่ต้องการให้บริษัทฯรองรับตลาดสินเชื่อเช่าซื้อที่มีระดับขึ้นมาอีกเล็กน้อย ตลาดฯตรงนี้ให้ Yield 8-9% เป็นการปล่อยให้กับรถใหม่มากขึ้นอายุไม่เกิน 10 ปี ฐานลูกค้าก็เป็นพวกที่มีรายได้ประจำเป็นหลัก ซึ่งบริษัทฯก็ยอมรับได้ เพราะต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯมีเพียงแค่ 3% เท่านั้น ขณะที่ของเดิมต้นทุนที่นวลิสซิ่งมีมันสูง จึงจำเป็นต้องปล่อยสินเชื่อคิดดอกเบี้ยสูงไปด้วย"นายสติ กล่าว
นายสติ กล่าวต่อว่า บริษัทได้ร่วมกับ ibank ในการจัดทำแผนธุรกิจ 5 ปี และยึดหลักการทำธุรกิจเคียงคู่คุณธรรม ซึ่งเริ่มต้นด้วยการลดต้นทุนก่อนและคืนเงินกู้ให้หมด ต่อมาก็มีการเร่งหารายได้เพิ่มขึ้นด้วยการซื้อพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อมาบริหาร ซึ่งบริษัทฯก็ได้พอร์ตสินเชื่อของ บมจ.สแกนโกลบอล(SCAN)มา รวมทั้งมีการควบคุมตัวเลข NPL ให้ดีขึ้น
"จากการซื้อพอร์ตสินเชื่อของ SCAN ที่มีอยู่ 48 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนประมาณ 7% ทำให้บริษัทฯมีรายได้เข้ามาทันทีในไตรมาส 1/54 และทำให้ผลการดำเนินงานของ AMANAH ปรับตัวดีขึ้น รวมถึงบริษัทฯก็ได้มีการปล่อยสินเชื่อใหม่ด้วย"นายสติ กล่าว
อนึ่ง AMANAH และบริษัทย่อย มีผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/54 มีกำไรสุทธิ 7.53 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.008 บาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 17.48 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.024 บาท
*เริ่มทำธุรกิจ Operating Lease จัดให้แบงก์อิสลาม 100 คันในปีนี้
กรรมการผู้จัดการ กล่าวต่อว่า ในช่วงไตรมาส 1Q54 บริษัทฯได้เริ่มทำธุรกิจ Operating Lease ด้วยการจัดรถเช่าซื้อให้กับ ibank จำนวน 100 คันในปีนี้ อายุสัญญาเช่า 3-5 ปี ค่าเช่าเฉลี่ยประมาณ 14,000 บาท/เดือน คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 80 ล้านบาท
"ในอนาคตบริษัทฯก็คงจะขยายฐานลูกค้าไปยังรัฐวิสาหกิจ และภาครัฐฯมากขึ้น"กรรมการผู้จัดการ กล่าว
นายสติ กล่าวว่า การปรับแนวทางธุรกิจและเริ่มทำธุรกิจใหม่ ๆ เชื่อว่าจะทำให้ผลกำไรของบริษัทฯในปี 54 เติบโตดีขึ้นกว่าในปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 1.8 ล้านบาท โดยบริษัทจะนำผลกำไรของปีนี้ไปรวมเป็นกำไรสะสมเพื่อขยายธุรกิจก่อน ส่วนการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นคาดว่าจะดำเนินการได้ในปี 55
"แม้ว่าจะจ่ายปันผลได้ แต่เนื่องจากกำไรยังมีอยู่น้อยมาก หากจ่ายไปผู้ถือหุ้นก็ได้ปันผลกันคนละเล็กน้อย สู้เอามารวมเป็นกำไรสะสมแล้วใช้ในการขยายธุรกิจก่อนจะดีกว่า แล้วปีหน้าบริษัทฯคงจะรุกธุรกิจมากขึ้น และผลกำไรของบริษัทฯก็คาดว่าจะมีมากขึ้นด้วย เมื่อถึงเวลานั้นบริษัทฯคงจะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ดีกว่าตอนนี้"กรรมการผู้จัดการ AMANAH กล่าว
ขณะนี้ต้นทุนทางการเงิน(Cost of Fund)ของบริษัทฯได้รับการสนับสนุนจาก ibank ทำให้บริษัทฯมีต้นทุนอยู่ที่ 3% เท่านั้น แต่หากเฉลี่ยทั้งปี 54 ต้นทุนน่าจะอยู่ที่ 2% เนื่องจากบริษัทเริ่มใช้เงินของ ibank ในเดือนมิ.ย.นี้ ด้วยต้นทุนทางการเงินที่ 3% ส่วนเดือนม.ค.-พ.ค.ที่ผ่านมา บริษัทฯใช้เงินเพิ่มทุนที่ได้จาก ibank ประมาณ 200 ล้านบาท รวมกับเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ นำมาใช้ในการปล่อยสินเชื่อในช่วงต้นปี
*ลงทุนปีนี้ราว 60 ลบ.ชขยาย 10 สาขา-Rebrand-IT,วางแผนซื้อพอร์ตสินเชื่อเพิ่ม
นายสติ กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนลงทุนในปีนี้ประมาณ 60 ล้านบาท แบ่งเป็นการขยายสาขาใหม่ 10 แห่งใช้งบลงทุนประมาณ 22 ล้านบาท โดย 5 แห่งจะเปิดใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ดสงขลา, สตูล, ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส ช่วงไตรมาส 2-3/54 ส่วนอีก 5 แห่งจะเปิดในภาคเหนือ คือ เชียงราย, เชียงใหม่, ลำพูน, ลำปาง และพิษณุโลก ช่วงไตรมาส 3-4/54 ซึ่งจะทำให้บริษัทมีสาขาทั้งสิ้น 18 สาขา รวมสำนักงานใหญ่ด้วย
"นอกจากนี้ ยังมีที่หัวหินที่กำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจอยู่ เนื่องจากมีลูกค้าแบงก์ที่มีพื้นที่ให้เช่า และภาครัฐฯเวลานี้ก็ส่งเสริมให้เป็นพื้นที่สีเขียว(Green City)ซึ่งถ้าบริษัทตกลงใจจะเปิดก็คาดว่าจะเปิดได้ในช่วงครึ่งหลังปีนี้(H2/54)"นายสติ กล่าว
ส่วนงบลงทุนที่เหลือจะใช้เพื่อการ Rebranding ประมาณ 8 ล้านบาท และลงทุนในส่วนของ Operating, ประชาสัมพันธ์ และ Marketing รวมทั้งลงทุนอีก 30 ล้านบาทเพื่อพัฒนาปรับปรุงด้าน IT
นอกจากนั้น บริษัทฯยังมีแผนจะเข้าซื้อพอร์ตสินเชื่อจากบริษัทลิสซิ่งอื่นอีก อย่างที่ผ่านมาก็เคยคิดที่จะซื้อพอร์ตสินเชื่อของ SICCO ที่มีขนาด 10,000 ล้านบาท จึงได้เข้าไปเจรจา แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากมีเงื่อนไขจะให้ซื้อหุ้นด้วย แต่บริษัทต้องการเพียงพอร์ตสินเชื่อเท่านั้น
"แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น น่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะเข้าไปซื้อพอร์ตสินเชื่อของบริษัทฯอื่น ที่ไม่มีแบงก์ back up เพราะต้นทุนทางการเงินของเขาสูง"นายสติ กล่าว
*เตรียมออกซูกุกบอนด์ปลายปี 55 หลัง ibank เป็นทรัสตี-เล็งเข้า"อิสลามิกอินเด็กซ์"
กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนเสนอขายตราสารระดมทุนตามหลักศาสนาอิสลาม(Sukuk) ในรูปแบบเฉพาะเจาะจง อย่างออกตราสาร match Fund กับรถ เชื่อว่าตลาดฯให้ความสนใจกันมากกว่าที่จะออกเพื่อระดมทุนเฉย ๆ หากทาง ibank ได้รับอนุมัติให้เป็นทรัสตี บริษัทก็จะเริ่มดำเนินการเพื่อให้ ibank เป็นตัวแทนขาย คาดว่าออกได้ในปลายปี 55 ซึ่งจะทำให้ต้นทุนถูกลง
"เราก็อยากจะออก Sukuk เพื่อ Funding โดยเฉพาะการออกในแบบเฉพาะเจาะจง อย่างออกบอนด์แบบ match Fund กับรถ, Fund กับบ้าน พวกนี้เวลานี้ตลาดฯให้ความสนใจกันมาก โดยเฉพาะพวกทางมาเลย์ฯ, ดูไบ, บรูไน แล้วพวกนี้ก็มีเงินเยอะ แต่ตอนนี้ต้องรอให้แบงก์อิสลามได้เป็นทรัสตีก่อน ซึ่งแบงก์กำลังทำเรื่องขอเป็นทรัสตี้อยู่ คาดว่าปลายปีนี้น่าจะได้รับอนุมัติให้ทำได้ ส่วนบริษัทฯก็คาดว่าจะออกบอนด์ได้ในปลายปีหน้าที่จะมีความพร้อมมากกว่าตอนนี้"กรรมการผู้จัดการ AMANAH กล่าว
และหลังจากบริษัทฯดำเนินธุรกิจในแนวทางของอิสลาม ดังนั้น จึงคิดว่า AMANAH ควรที่จะได้เข้าไปอยู่ในอิสลามิกอินเด็กซ์ เชื่อว่าทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)คงจะดูเรื่องนี้อยู่ ต่อไป AMANAH ก็คงจะอยู่ทั้ง SET Index และอิสลามิกอินเด็กซ์ด้วย
"นักลงทุนกลุ่มอิสลามไม่สามารถเข้ามาเล่นหุ้นเก็งกำไรในตลาด SET ได้ ผิดกฎข้อห้ามของศาสนาอิสลาม ดังนั้นเพื่อให้ถูกต้องและนักลงทุนกลุ่มอิสลามสามารถเข้ามาลงทุนได้ ก็น่าจะให้ AMANAH เข้าไปอยู่ในกลุ่มอิสลามิกอินเด็กซ์"นายสติ กล่าว
*มองราคาหุ้นถูกเกินไป ควรแกว่งแถว 1.2 บ.เท่าที่ ibank ลงทุน
กรรมการผู้จัดการ AMANAH กล่าวอีกว่า ราคาหุ้น AMANAH ในปัจจุบันถือว่ายังถูกอยู่ โดยราคาหุ้นควรจะขึ้นเคลื่อนไหวแถว 1.20 บาท/หุ้น ซึ่งเป็นระดับราคาหุ้นที่ทาง ibank เข้ามาลงทุน เพราะมีความเหมาะสมกับพื้นฐานของบริษัทฯ
"อย่างน้อยราคาหุ้น AMANAH ควรจะขึ้นมาอยู่แถว 1.20 บาท/หุ้น ซึ่งเป็นราคาที่ทางแบงก์อิสลามได้เข้ามาซื้อไป ที่จริงการที่ราคาหุ้นอยู่ในระดับราคาในปัจจุบันคงเป็นเพราะนักลงทุนไม่ได้มองว่า AMANAH มีกำไรสะสมอยู่ 50 ล้านบาทอยู่แล้ว ในช่วงก่อนที่แบงก์อิสลามจะเข้ามาซะอีก"กรรมการผู้จัดการ กล่าว