นายจักรพันธ์ สุขพันธ์โพธารม กรรมการ บมจ.โรงพยาบาลกรุงธน(KDH)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทเชื่อว่าผลประกอบการในปี 54 จะพลิกกลับมามีกำไรได้บ้าง แม้อาจจะไม่สูงมากนัก จากปีก่อนที่บริษัทขาดทุนลดลงเหลือ 4.8 ล้านบาท เนื่องจากขณะนี้บริษัทยกเลิกสัญญาเช่าอาคารก่อนหมดสัญญาในอีก 2 ปี รวมถึงการขายทรัพย์สินของโรงพยาบาลกรุงธน 2 ซึ่งช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาประสบปัญหาขาดทุนมาต่อเนื่อง
การลดภาระการแบกรับผลขาดทุนดังกล่าวจะทำให้บริษัทสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และเงินที่ได้จากการขายทรัพย์สินในโรงพยาบาลกรุงธน 2 จะนำมาใช้พัฒนาโรงพยาบาลกรุงธน 1 ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทมีการพัฒนามาตลอด ทั้งการรีแบรนดิ้ง การปรับปรุงอาคาร และจัดตั้งศูนย์การแพทย์ด้านต่างๆ รวมทั้งการทำ CSR และ HA เพื่อมุ่งสู่ความดีเลิศอย่างต่อเนื่อง
"เรายังไม่มีแผนจะเปิดโรงพยาบาลแห่งใหม่หลังปิดกรุงธน 2 ซึ่งก็เหมือนการเปิดสาขา หากสาขาไหนไม่ดีเราก็ปิด...จุดประสงค์หลักของเราคือเลิกเช่าอาคารก่อนหมดสัญญาเพื่อตัดขาดทุนจะทำให้เราฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ที่ผ่านมาเรามีการปรับปรุงในหลายด้านมาต่อเนื่อง ปีนี้เชื่อว่าเราก็จะ pick up ปีนี้น่าจะมีกำไรได้"นายจักรพันธ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/54 อาจจะยังมีผลขาดทุนต่อเนื่องจากไตรมาส 1/54 ที่มีผลขาดทุน 5.62 ล้านบาท ถือเป็นวัฎจักรปกติของธุรกิจโรงพยาบาล แต่แนวโน้มผลขาดทุนจะน้อยลง ขณะที่ช่วงดีที่สุดของธุรกิจโรงพยาบาลจะเป็นไตรมาส 3-4/54 ที่จะมีผลกำไร
ทั้งนี้ ปัจจุบันการให้บริการของโรงพยาบาลกรุงธน จะเน้นด้านศูนย์สุขภาพ ศูนย์โรคหัวใจ ศูนย์ผู้มีบุตรยาก และเป็นศูนย์ล้างไตเอกชนขนาดใหญ่ ส่วนการที่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ(BGH) เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 20% ไม่ได้เข้ามาแทรกแซงหรือปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารงานของบริษัทแต่อย่างใด โดยยังให้กลุ่มผู้บริหารเดิมบริหารงานต่อไป และไม่ได้ให้นโยบายในการบริหารใดๆ