นายชูเกียรติ ยงวงศ์ไพบูลย์ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.เพิ่มสินสตีลเวิร์ค(PERM)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ทั้งปี 54 บริษัทได้ตั้งเป้ารายได้เติบโตมากกว่า 10% หรือคิดเป็นรายได้มากกว่า 4,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 3,600 ล้านบาท เนื่องจากมีกำลังการผลิตเพิ่มจากโรงงานแห่งใหม่ โดยในปีนี้บริษัทขยายการขายวัตถุดิบแผ่นเหล็กรีดร้อนให้ลูกค้า เช่น คาร์ฟูร์ โลตัส ซึ่งขณะนี้มีงานเต็มกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น มีการขายวัตถุดิบให้ซัพพลายเออร์มากขึ้น โดยเฉพาะหลังคาเหล็กในต่างจังหวัดที่มีการเติบโตสูงมาก
ส่วนกำไรสุทธิทั้งปีน่าจะดีกว่าปีก่อนที่อยู่ที่ 48 ล้านบาท เนื่องจากปีก่อนมีปัจจัยการเมืองที่ส่งผลกระทบ
"ปีนี้ไม่มีเรื่องการเมือง ซึ่งถ้าไม่มีเหตุรุนแรงอะไรเกิดขึ้นมา การลงทุนก็จะเข้ามา และก็หวังว่าการเมืองจะนิ่ง ประกอบกับปีนี้ต้นทุนวัตถุดิบยังไม่มีอะไร ยังไปได้ด้วยดี ปีนี้น่าจะเป็นปีที่ดีเพราะผ่านมาครึ่งทางแล้ว เหลืออีกครึ่งทางหลังที่ต้องระวังคือนโยบายหลักทางด้านการเงิน การเก็บหนี้ต่างๆ" นายชูเกียรติ กล่าว
และคาดรายได้และกำไรครึ่งแรกปี 54 ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ประมาณ 1,800-1,900 ล้านบาท และเป็นกำไรสุทธิ 38 ล้านบาท โดยคาดว่าครึ่งแรกปีนี้รายได้มากกว่า 2,000 ล้านบาท ยอดขายหลักมาจากแผ่นเหล็กรีดร้อนที่ขายให้กับผู้ผลิตท่อ การก่อสร้าง เหล็กรูปตัวซี ที่เริ่มดีขึ้นในปีนี้
นอกจากนี้ ครึ่งปีแรกคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ 5% และส่วนอัตรากำไรสุทธิครึ่งแรกอยู่ที่ 5% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่อยู่ 3-4%
*ครึ่งปีหลังได้อุตฯรถยนต์หนุนธุรกิจ
สำหรับเหล็กแผ่นรีดเย็น คาดยอดขายในครึ่งปีหลังจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะจากลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ออร์เดอร์อั้นมาในช่วงไตรมาส 2/54 เชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นมากในไตรมาส 3-4/54 มีสัญญาณออเดอร์เหล็กแผ่นรีดเย็นเริ่มสูงขึ้นแล้วตั้งแต่เดือน มิ.ย.หลังจากผู้ผลิตรถยนต์กลับมาเดินเครื่องการผลิตแล้ว 90% และเดือน ก.ค.จะเดินเครื่องเพิ่มเป็น 100% ประกอบกับปีนี้บริษัทได้รับออเดอร์จากซัพพลายเออร์ที่ผลิตอีโคคาร์เข้ามาเพิ่มทั้งค่ายฮอนด้าและโตโยต้า
สัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากแผ่นเหล็กรีดร้อน 40% รีดเย็น 30-40% ซึ่งในจำนวนนี้เป็นการขายให้กับกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์ 60% อีก 30% อุตสาหกรรมไฟฟ้า เช่น ไมโครเวฟ ที่เหลือเป็นผู้ใช้ประเภทอื่นๆ และปัจจุบันบริษัทมีออร์เดอร์ล่วงหน้า 20-30% ของยอดขาย หรือประมาณ 3 เดือน
"ไตรมาส 2/54 คาดทั้งรายได้และกำไรดีกว่า yoy ไตรมาสนี้จะเน้นขายวัตถุดิบแผ่นเหล็กรีดร้อน แต่มองไตรมาส 3 ไตรมาส 4 จะเป็นช่วงอั้นออร์เดอร์มาจากไตรมาส 2 โดยเฉพาะอุตฯรถยนต์ เพราะฉะนั้นไตรมาส 3-4 ในส่วนของแผ่นเหล็กรีดเย็นอาจจะผลิตไม่ทันให้กับลูกค้า คงจะกระทบการส่งสินค้าช่วงนั้น" นายชูเกียรติ กล่าว
นายชูเกียรติ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทยังไม่มีงบลงทุนขนาดใหญ่ เพราะยังใช้กำลังการผลิตโรงงานแห่งใหม่(5)ที่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อปีที่แล้ว กำลังการผลิตโรง 5 จะผลิตได้เต็มที่เต็มปี 10,000 ตัน/เดือน ขณะที่กำลังการผลิตทั้ง 5 โรงปัจจุบันอยู่ที่ 20,000 ตัน/เดือน
ทั้งนี้ราคาเหล็กในขณะนี้ยังไม่มีการปรับเพิ่ม เพราะราคาเหล็กต่างประเทศยังทรงตัว ส่วนแผ่นเหล็กรีดร้อนขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ก็ยังไม่ได้อนุมัติให้ปรับขึ้นราคา ส่วนงานประมูลขายเหล็กทรงสูงที่ใช้ในโครงการรถไฟฟ้านี้ยังไม่มีการเปิดประมูล แต่ถ้าเปิดประมูลบริษัทพร้อมยื่นประมูลเช่นกัน