นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวว่า ขณะนี้ต่างชาติเริ่มมีการขายหุ้นไทยออกไปบางส่วนเนื่องจากไม่มั่นใจสถานการณ์หลังการเลือกตั้ง และตลท.เองก็กังวลว่าหากเกิดความรุนแรงหลังการเลือกตั้ง มีโอกาสที่ต่างชาติเทขายหุ้นไทยเหมือนในอดีตที่ปีก่อนขายสุทธิถึง 6 หมื่นล้านบาทภายใน 1 เดือน
"หากความรุนแรงเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งจะบั่นทอนความเชื่อมั่น และจะทำให้ต่างชาติก้าวข้ามประเทศเราไป รวมถึงนักลงทุนไทยก็จะก้าวข้ามไปเช่นกัน"นายจรัมพร กล่าว
ทั้งนี้ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ คาดว่าในปี 54 มูลค่าตลาดรวมของหุ้นไทยอยู่ที่ 1 แสนล้านบาทตามเป้าหมาย
นายจรัมพร กล่าวว่า หากไทยไม่มีปัญหาการเมือง ตลาดหุ้นไทยถือเป็นตลาดที่ดีมีปัจจัยพื้นฐานดี ซึ่งเห็นได้จากการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 1/54 มีกำไรสุทธิ 2.05 แสนล้านบาท ซึ่งสร้างสถิติสูงสุดตั้งแต่จัดตั้งตลาด เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของทุกปี ขณะที่ บจ.ในตลาด mai มีกำไรสุทธิ 1.02 พันล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว
"ตอนนี้มีหลายประเทศให้เลือกลงทุนที่ขนาดและศักยภาพเหมือนประเทศไทย หากเรามีเหตุการณ์รุนแรงเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องเข้ามาลงทุนที่เรา เขาก็สามารถไปลงทุนที่อื่นได้ ...ไม่รู้ว่า 3-4 สัปดาห์นี้จะมีอะไรเกิดขึ้น ต่างชาติมีตลาดอื่นที่เขาก็สนใจลงทุน ให้ผลตอบแทนที่ดี ถึงพื้นฐานเรายังเปลี่ยนแปลง แต่เขาก็มีโอกาสที่จะไป"ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์กล่าว
*ตลท.ร่วม 6 หน่วยงานเรียกร้องทุกพรรคยอมรับผลเลือกตั้ง
นายจรัมพร กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ได้ร่วมมือกับหน่วยงาน 6 แห่งได้แก่ สมาคมธนาคารไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เห็นตรงกันว่าความรุนแรงทางการเมืองจะส่งผลต่อธุรกิจ จากการประมวลข้อมูลต่างๆพบว่ามีความเป็นไปได้สูง ที่จะเกิดความขัดแย้งทางการเมืองรุนแรงเกิดขึ้นอีกครั้งภายหลังการเลือกตั้ง
ทั้ง 6 องค์กรมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว ความขัดแย้งทางการเมืองจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังประชาชนทุกภาคส่วน และจะส่งผลต่อประเทศชาติจนยากที่จะฟื้นฟู
ปัจจัยดังกล่าว 6 หน่วยงาน อยากเรียกร้องและมีข้อเสนอ 3 ประการ ได้แก่ (1) พรรคการเมืองทุกพรรครวมถึงกลุ่มการเมืองทุกกลุ่ม ต้องยอมรับผลการเลือกตั้ง และหลีกเลี่ยงหรือไม่ดำเนินการโดยประการใดๆ ที่จะนำประเทศสู่ความรุนแรงในทุกรูปแบบ
(2) พรรคการเมืองทุกพรรคต้องแสดงเจตจำนงทางการเมืองว่าจะให้ความสำคัญ กับกระบวนการลดความข้ดแย้งอันจะนำไปสู่การปรองดองของประเทศ โดยให้ถือเป็นส้ญญาประชาคม ว่าหลังการเลือกตั้งจะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน
และ (3) การสร้างความปรองดองจะต้องดำเนินการโดยองค์กรที่เป็นอิสระ และไม่ใช่คู่ขัดแย้ง โดยมีกระบวนการที่เหมาะสมและเป็นธรรม