นายธงชัย บุศราพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) กล่าวว่า ยอดจองโครงการคอมโดมิเนียม "โนเบิล เพลินจิต" อย่างเป็นทางการวันแรกเมื่อวานนี้ ทำได้ 50% จากทั้งหมด 1,442 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นยอดจองประมาณ 7 พันล้านบาท ถือว่าทำได้ตามความคาดหมาย ซึ่งสูงสุดในวงการอสังหาริมทรัพย์
"ยอดจอง (โนเบิล เพลินจิต) เป็นไปตามคาด 50% หรือ 7 พันล้าน ซึ่งถือเป็นยอดจองวันแรกที่สูงที่สุดของบริษัท และน่าจะสูงสุดของวงการอสังหาริมทรัพย์ด้วย น่าจะมาจากทำเลที่ตั้งที่ดี และราคาเปิดตัวก็ไม่ได้สูงมาก"นายธงชัย กล่าว
นายธงชัย กล่าวว่า ยูนิตของโครงการดังกลาวที่ได้รับความนิยมเป็นส่วนใหญ่คือ ยูนิตประเภท 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ตามลำดับ และเป็นที่น่าสังเกตุว่า ยูนิตประเภทพิเศษ หรือ Duplex Penthouse ขนาด 200 ตารางเมตรราคาเริ่มต้นประมาน 35 ล้านบาทที่โครงการมีอยู่ทั้งสิ้น 16 ยูนิต ได้ทำการขายไปได้ถึง 13 ยูนิต เหลืออยู่อีกเพียง 3 ยูนิตเท่านั้น
สำหรับการพัฒนาโครงการโนเบิลเพลินจิตในขั้นต่อไป บริษัทตั้งเป้าหมายการขายว่าน่าจะบรรลุ 70 % ภายในเวลาก่อนสิ้นปีนี้ และโครงการอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานสิ่งแวดล้อม ซึ่งคาดว่าน่าจะได้รับการอนุมัติและเริ่มทำการก่อสร้างได้ไม่เกินระยะเวลาอีก 1 ปีหลังจากนี้
พร้อมกันนั้น บริษัทมีแผนการที่จะเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยอีกสองโครงการ ก่อนสิ้นปี นี้ปัจจุบันบริษัทมียอดขายที่จะรอการรับรู้รายได้จำนวนทั้งสิ้น 13,000 ล้านบาท
สำหรับราคาหุ้น NOBLE ที่ปรับตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ นายธงชัย ยอมรับว่า มีนักลงทุนจำนวนมากคาดหวังว่ายอดจองวันแรกโครงการ"โนเบิล เพลินจิต"น่าจะสูงกว่านี้ และส่วนหนึ่งก็มาจากการที่นักลงทุนได้เข้ามาเล่นเก็งกำไรล่วงหน้าจำมีการขาย sell on fact ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องปกติ
"นักลงทุนอาจจะคาดหวังไว้มากกว่านี้ แต่ผมมองว่าก่อนหน้านี้หุ้นก็ขึ้นมา 10% แล้ว ถ้าจะลงมา 10% ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก"นายธงชัย กล่าว