โบรกเกอร์เห็นพ้องแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์(NOBLE)หลังมีแรงหนุนโครงการคอนโดมิเนียม โนเบิล เพลินจิต ยอดจองวันแรกสูงถึง 50% จากมูลค่าโครงการ 1.4 หมื่นล้านบาท โครงการดังกล่าวจะผลักดันรายได้และกำไรปี 59 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนไตรมาส 2/54 มีบันทึกรายได้จากการขายที่ดินกว่า 400 ล้านบาท แต่ทั้งปี 54 ยังได้รับผลกระทบจากมาตรฐานบัญชีใหม่เหมือนอสังหาริมทรัพย์รายอื่น
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท) บล.ดีบีเอสฯ ซื้อ 8.10 บล.เอเชียพลัส ซื้อ 8.47 บล.โกลเบล็ก ซื้อ 8.00
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีรธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยไทย บล.เอเชียพลัส ยังคงแนะนำ"ซื้อ"NOBLE กำหนด Fair Value ที่ PER 8 เท่า หรือ 8.47 บาท จากการลงทุนโครงการคอนโดมิเนียม โนเบิล เพลินจิต (ติดสถานี BTS เพลินจิต) มูลค่าโครงการ 1.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งฝ่ายวิจัยติดตามข้อมูลมาตั้งแต่ช่วงที่เริ่มซื้อที่ดินจนถึงล่าสุดพบว่ามีกระแสตอบรับในเชิงบวกมาก
นอกจากนี้ ไตรมาส 2/54 คาดว่า NOBLE จะมีการบันทึกรายได้จากการขายที่ดินเปล่าจำนวน 16 ไร่ ที่พัฒนาการ มูลค่า 429.26 ล้านบาท ซึ่งน่าจะมี Gross Margin ประมาณ 50% ส่วนโครงการที่จะสร้างรายได้เพิ่มเติมเข้ามา ประกอบด้วยคอนโดฯ ที่สร้างเสร็จแล้ว ได้แก่ Noble Remixed 2 และส่วนที่เหลือของ Solo ขณะที่โครงการแนวราบมี 2 ส่วนคือ Noble Cube ซึ่งเป็นทาวเฮ้าส์ และ Residence
ทั้งนี้ Backlog ณ สิ้น 1Q54 อยู่ที่ 6 พันล้านบาท
บล.เอเชียพลัส เชื่อว่าประเด็นเรื่องความสำเร็จจากการขายโครงการ Noble Ploenchit มูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นปัจจัยที่มีน้ำหนักในการขับเคลื่อนราคาหุ้นได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะหากสามารถสร้าง Presale ได้สูงกว่า 70% ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะสร้างรายได้ในปี 59 ซึ่งน่าจะทำให้เห็นการปรับฐานรายได้และกำไรอย่างมีนัยสำคัญ
ด้านบทวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุว่า โครงการโนเบิลเพลินจิตเปิดจองได้ยอด 7 พันล้านบาทภายในวันเดียว และเพิ่มมูลค่างานคงค้างในมือเป็น 1.3 หมื่นล้านบาท NOBLE ยังมีแผนลงทุนต่อ โดยล่าสุดเตรียมออกหุ้นกู้ 1.5 พันล้านบาท ให้บลจ.กรุงศรีฯ ดำเนินการ พร้อมทั้งมีแผนขยับราคาโนเบิลเพลินจิตขึ้นอีก 5% ในวันพุธที่ 22 มิ.ย.54 นี้
อย่างไรก็ตาม แม้ยอดขายโครงการโนเบิลเพลินจิตในวันแรกจะน้อยกว่าที่ตั้งเป้าว่าจะขายได้ถึง 70% แต่การขายได้ถึง 50% ถือว่าดีกว่าคอนโดมีเนียมที่เปิดขายในปีนี้ที่วันแรกส่วนใหญ่จะขายได้ 30-40% เท่านั้น ไม่มีรายไหนเปิดขายหมดในวันเดียวเหมือน 2-3 ปีที่แล้ว และโครงการนี้มีขนาดใหญ่มาก ยอดขายในระดับนี้ถือว่าน่าพอใจ
ส่วนการที่คอนโดมิเนียมนี้ที่ดินเป็น Free Hold คือผู้ซื้อคอนโดเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน และทำเลดีมากติดริมถนนแยกเพลินจิตใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS กว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จเป็นปลายปี 59 เราจึงเห็นว่าบริษัทจะสร้างยอดขายได้เพิ่มอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ คงคำแนะนำ"ซื้อ"ข้อดีของโครงการนี้ของ NOBLE คือจะสามารถเพิ่มมูลค่าหุ้นได้เป็นอย่างดี ยอดขาย(presales)ในปีนี้คาดว่าจะมากกว่า 10.0 พันล้านบาท จากระดับปกติที่ปีละประมาณ 2.0-3.8 พันล้านบาท เนื่องจากโครงการนี้กว่าจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ได้เป็นปี 2560 เราจึงได้จัดทำประมาณการกำไรสุทธิปี 60 อย่างอนุรักษ์นิยม คือให้มีการโอนกรรมสิทธิ์ได้ 60% จากมูลค่าทั้งหมดของโครงการ พบว่ากำไรสุทธิในปีนั้นจะสูงขึ้นเป็น 1.1 พันล้านบาท คิดเป็น 3.6 เท่าจากปี 54 ที่มีกำไรสุทธิเพียง 302 ล้านบาท
และประเมินมูลค่าหุ้นที่เหมาะสมในปีนั้นได้สูงเป็น 12.40 บาท (P/E ปี 60 ที่ 5.0 เท่า) ซึ่งสูงกว่าราคาหุ้นในปัจจุบันถึง 77% และคิดลดมาเป็นราคาพื้นฐานปี 54 ได้ที่ 8.01 บาท ราคาปิดยังมีส่วนเพิ่มเทียบกับราคาพื้นฐานได้อีก 14.4%