นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการเงินและบัญชี บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์(TTA) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากกลุ่มผู้ถือหุ้น 75 รายที่เรียกร้องให้จัดการประชุมผู้ถือหุ้น และให้บริษัทออกวอร์แรนท์ หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้มีมติไม่รับข้อเสนอดังกล่าว เนื่องจากยังไม่เห็นเรื่องสำคัญใดๆที่จะต้องเรียกประชุมผู้ถือหุ้น
ประกอบกับ เมื่อมีการตรวจสอบพบว่ามีผู้ถือหุ้นเกิน 25 รายตามเกณฑ์ แต่รวมกันแล้วสัดส่วนมีไม่ถึง 10% แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดของข้อมูลผู้ถือหุ้น และไม่มีนโยบายที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับใคร แต่จากนี้ไปบริษัทก็จะกลับมาทำงานได้ตามปกติ จากก่อนหน้านี้ได้ให้ความสำคัญกับการชี้แจงกระแสข่าวที่เกิดขึ้น
"ที่บอร์ดจ่ายปันผล 50 สตางค์ต่อหุ้น เป็นเงิน 365 ล้านบาท จะเป็นการจ่ายจากกำไรสะสมของบริษัทที่มีกว่า 1 หมื่นล้านบาท เป็นการจ่ายตามที่ประชุมผู้ถือหุ้นร้องขอก่อนหน้านี้ ส่วนที่คิดว่าพอมีข่าวเทคโอเวอร์ก็จะมาจ่ายปันผล ก็เป็นเรื่องที่แล้วแต่จะคิด เพราะสุดท้ายแล้วเราก็จ่าย การจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้น เราเรียกคืนไม่ได้ แต่เราประชุมแผนธุรกิจปีหน้าแล้ว เห็น่ว่าช่วงนี้ยังไม่มีการลงทุนใหม่ๆ โอกาสขยายธุรกิจมีไม่มาก กระแสเงินสดมีเพียงพอ จึงจ่ายเป็นปันผลให้ผู้ถือหุ้น"นางฐิติมา กล่าว
ส่วนกรณี ฟิทช์ เรทติ้ง มีการปรับลดเครดิตเรทติ้งเป็น Negative Outlook นั้น ทางบริษัทมองว่าเป็นการทบทวนประจำปีตามปกติ โดยพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทที่ปรับตัวลดลง ขณะที่มองว่าธุรกิจเดินเรือทรงตัวและยังไม่มีสัญญาณเชิงบวก จึงปรับมุมมองเป็น Negative ซึ่งไม่เกี่ยวกับกระแสข่าวการเทคโอเวอร์ที่เกิดขึ้น
นางฐิติมา ประเมินว่า อัตราค่าระวางเรือน่าจะยังทรงตัวต่อไป 18 เดือน จากระดับปัจจุบันอยู่ที่ 1.2-1.3 พันเหรียญ/ลำ/วัน เนื่องจากปริมาณกองเรือในช่วง 1-2 ปีนี้จะเพิ่มขึ้นอีก ส่วนบริษัทมีกองเรืออยู่ 15 ลำ และจะรับมอบอีก 2 ลำในปีหน้ายังอยุ่ในระดับบริหารจัดการต้นทุนได้
ขณะเดียวกันบริษัทได้ขายเรือเก่า 7 ลำ และเริ่มทยอยส่งมอบซึ่งจะส่งมอบลำสุดท้ายในปลายเดือนก.ค.นี้ แต่จะบันทึกเป็นรายได้ทั้งหมดในช่วงปลายไตรมาส 3/54 (เม.ย.-มิ.ย.)หรือต้นไตรมาส 4/54 (ก.ค.-ก.ย.)
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทวานนี้ แนะให้เพิ่มกลยุทธ์ในเรื่องนักลงทุนสัมพันธ์ (IR) เพื่อสื่อสารกับผู้ถือหุ้นในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัท เนื่องจากธุรกิจของบริษัทเป็นเรื่องเข้าใจยาก และเป็นเรื่องไกลตัวของคนไทย
นางฐิติมา กล่าวว่า จากที่บริษัทได้ทำความชี้แจงข้อเท็จจริงในช่วงที่ผ่านมา พบว่าทางสถาบันการเงินและลูกค้าบริษัทมีความเข้าใจบริษัทมากขึ้น หลังวันที่ 23-25 พ.ค.ที่ผ่านมาที่เป็นช่วงสร้างความกังวลมากที่สุดทั้งต่อธนาคารผู้ให้กู้และลูกค้า แต่ขณะนี้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว