หุ้น KBS พุ่ง 5.69% มาอยู่ที่ 13 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท มูลค่าซื้อขาย 607.85 ล้านบาท เมื่อเวลา 16.32 น. โดยเปิดตลาดที่ 12.30 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 13 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 12.20 บาท
นายถกล ถวิลเติมทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.น้ำตาลครบุรี (KBS)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทฯกำลังเจรจากับพันธมิตรต่างชาติที่จะเข้ามาร่วมธุรกิจเอทานอล โดยเป็นการร่วมลงทุนในบริษัท ครบุรี เอ็นเนอร์ยี่(KBAC)ซึ่งปัจจุบันบริษัทถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 99%
ทั้งนี้ พันธมิตรต่างชาติที่จะเข้ามาร่วมลงทุนธุรกิจเอทานอล เป็นบริษัทที่มีความต้องการใช้เอทานอลด้วย โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องรับซื้อเอทานอลทั้งหมดที่ผลิตได้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการรับประกันได้ว่าเมื่อบริษัทผลิตเอทานอลขึ้นมาแล้วจะมีตลาดรองรับ ส่วนการเจรจาคาดว่าจะได้ข้อตกลงที่ชัดเจนภายในสิ้นปีนี้(2554)
"บริษัทฯมีใบอนุญาตทำธุรกิจเอทานอลอยู่แล้ว ด้วยกำลังผลิต 150,000 ลิตร/วัน ที่ผ่านมาบริษัทฯก็ได้มีการศึกษาอยู่แต่ก็ยังเก็บใบอนุญาตไว้ก่อน โดยเอทานอลที่บริษัทฯทำจะใช้วัตถุดิบจากโมลาส ซึ่งเป็นกากน้ำตาล"นายถกล กล่าว
กรรมการผู้จัดการ KBS กล่าวว่า หลังจากที่ได้ข้อตกลงที่ชัดเจนถึงการร่วมลงทุนในธุรกิจเอทานอลแล้ว คาดว่าไม่เกิน 2 ปีก็น่าจะจัดตั้งโรงงานได้เสร็จ ประมาณช่วงปลายปี 56 ก็น่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้แล้ว
การทำธุรกิจเอทานอลจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัท เพราะปัจจุบันขายโมลาสให้กับอุตสาหกรรมผลิตเหล้า, ผงชูรส แต่หากมีโรงงานเอทานอลแล้วก็จะช่วยสร้างรายได้สูงขึ้น กำไรก็จะมีความแน่นอนมากขึ้น ไม่เหวี่ยงตัวขึ้น-ลงอย่างที่ผ่านมา ซึ่งในปี 53 บริษัทขายโมลาสที่ราคา 4.50 บาท/กก.แต่ปัจจุบันราคาโมลาสลงมาอยู่แถว 2.50 บาท/กก.ซึ่งถ้ามีโรงงานเอทานอลก็จะทำให้บริษัทสามารถ Fix ราคาโมลาสไว้ได้ที่ประมาณ 5-6 บาท/กก.
นายถกล กล่าวอีกว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/54 ก็เชื่อว่าน่าจะทำสถิติสูงสุด จริงอย่างที่โบรกเกอร์คาดการณ์ไว้ เพราะไตรมาส 3/54 บริษัทฯยังมีการส่งออกน้ำตาลอยู่อีก โดยในครึ่งแรกของปีบริษัทฯได้ส่งออกน้ำตาลไปแล้ว 40% ยังคงเหลือส่งออกน้ำตาลอีก 60% ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งบริษัทฯมีสัดส่วนการส่งออกน้ำตาล 65% และขายในประเทศ 25%
"ปัจจุบันราคาส่งออกน้ำตาลขายได้ในราคาที่แพงกว่าขายในประเทศอยู่ประมาณ 2-3 บาท/กก. ขณะที่ในประเทศก็มีราคาขายอยู่แถว 19, 20, 25 บาท/กก.ขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำตาล"นายถลก กล่าว