นายช่วงชัย นะวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทมีความพร้อมจะแข่งขันภายใต้การเปิดเสรีโบรกเกอร์ในปีหน้าว โดยได้ดำเนินแผนงานในการขยายทีมงานมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพัฒนาระบบต่างๆ ทั้งระบบเทรดหลักทรัพย์ และระบบปฏิบัติการในส่วนของแบ็คออฟฟิศ หลังจากบริษัทตัดสินใจว่าจะซื้อกิจการโบรกเกอร์รายอื่นอีกแล้ว แต่จะใช้แนวทางการเติบโตโดยธรรมชาติจากการดำเนินงานแทนการควบรวมกิจการ
"ทางเราก็มีการขยายทีมงานอยู่เรื่อย ๆ ที่ผ่านมามาร์เก็ตติ้งมีการขยับขยายกันพอสมควร เพราะเขาเคยอยู่โบรกเกอร์เล็ก เขาก็รู้สึกว่ามันอยู่ไม่ได้ ก็เลยมีการขยับขยายกัน ก็มีบางส่วนที่มาที่เรานะครับ
แผนที่จะทำปีนี้คงจะต้องเตรียมระบบงานต่าง ๆ ทั้งในแง่ของตัว Product หมายถึงเรื่องเทรดหุ้นต่างประเทศ, SBL ระบบ DMA แล้วก็เตรียมการระบบต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น Product จะต้องพัฒนาให้มีประสิทธิภาพล้ำหน้าทุกแห่งให้ได้ ขณะเดียวกันหน่วยงานสนับสนุนทั้ง research, Back office ก็ต้องพัฒนาให้ดีขึ้นสามารถรองรับการทำงานได้"นายช่วงชัย กล่าว
*ปีนี้ตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ธุรกิจหลักทรัพย์ 7% ส่วน TFEX หวังแชร์ 5%
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FSS กล่าวว่า บริษัทฯตั้งเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาดธุรกิจหลักทรัพย์(มาร์เก็ตแชร์)ในปี 54 เพิ่มขึ้นมาที่ประมาณ 7% จากปัจจุบันมีมาร์เก็ตแชร์ราวว 6% ส่วนมาร์เก็ตแชร์ของตลาด TFEX ปีนี้ตั้งเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 5% จากปัจจุบันที่มีอยู่ 3%
"ตอนนี้มาร์เก็ตแชร์เราก็ยืนอยู่แถว 5% ค่อนข้างจะสม่ำเสมอ ก็มีฟินันเซียและสินเอเซีย ที่เราถือหุ้นอยู่ 90% รวมกันมาร์เก็ตแชร์ก็อยู่ประมาณใกล้เคียง 6% เราก็คิดว่าเราน่าจะอยู่รอดได้ ในส่วนฟินันเซียเราก็จะเน้นรายย่อย มีทั้งหมด 35 สาขา มาร์เก็ตติ้งเกือบ 700 คน ด้านสินเอเซียก็จะเน้นสถาบัน ที่เราไปเซ็นสัญญาร่วมมือกับ BNP Paribars ส่วนฟินันเซียก็มีสถาบันบ้างแต่ยังไม่เยอะ เป็นสถาบันในประเทศส่วนใหญ่ และก็มีความร่วมมือกับ OCBC Securities สิงคโปร์"เจ้าหน้าที่บริหาร FSS กล่าว
*เตรียมระบบ DMA เอื้อสถาบันต่างประเทศเทรดหุ้น
นายช่วงชัย กล่าวต่อว่า ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในด้าน DMA(Direct Market Access) เพื่อให้นักลงทุนสถาบันต่างประเทศสามารถคีย์ออเดอร์โดยตรงไปที่ตลาดหลักทรัพย์ได้เลย
"ตอนนี้บริษัทฯก็อยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมในด้าน DMA (Direct Market Access)เป็นระบบที่ทางตลาดหลักทรัพย์อนุญาตให้สถาบันต่างประเทศคีย์ออเดอร์โดยตรงไปที่ตลาดฯ ซึ่งตลาดฯได้อนุญาตเมื่อปลายปีที่แล้ว"นายช่วงชัย กล่าว
นายช่วงชัย กล่าวต่อว่า ช่วงนี้ภาวะตลาดหุ้นไทยผันผวน อันเกิดจากความไม่มั่นใจในการลงทุน ทำให้นักลงทุนไทยหันไปเทรดหุ้นต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งบริษัทก็มีระบบ Global Trading ของ OCBC รองรับอยู่แล้ว
"คนไทยไปเทรดหุ้นต่างประเทศเราก็ทำมาสักพักแล้ว ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เราใช้ระบบ Global Trading ของ OCBC เนี่ย ไปเชื่อมโยงกับ 17 ตลาดทั่วโลก ตอนนี้ก็เริ่มมีลูกค้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นทั้งรายย่อยและสถาบัน โดยเฉพาะช่วงนี้ตลาดในประเทศเริ่มผันผวน จากความไม่มั่นใจ ทำให้นักลงทุนหันไปเทรดหุ้นต่างประเทศมากขึ้นเรื่อย ๆ"
*เล็งขยายพอร์ตลงทุนเท่าตัว-เพิ่มทีมงาน-เปิด 2-3 สาขาใหม่
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FSS กล่าวว่า บริษัทฯยังมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีก 2-3 สาขา จากปัจจุบันที่มีสาขาอยู่ทั้งหมด 35 สาขา ซึ่งขณะนี้กำลังดูอยู่ เนื่องจากสาขาที่จะเปิดเพิ่มขึ้นอีกนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์ โดยจะเปิดได้ต้องมีความพร้อมก่อน
"ปัจจุบันเรามีทั้งหมด 35 สาขา ผมคิดว่าอาจมีบางจังหวัดที่เรายังขาดอยู่ ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์นะครับ ก็มี 2-3 จุด ที่เราอาจจะเปิดเพิ่ม ซึ่งจะเปิดเมื่อไรต้องดูแล้วแต่โอกาส โดยทีมงานต้องพร้อมเราถึงจะเปิดได้"นายช่วงชัย กล่าว
ขณะที่พอร์ตลงทุนของบริษัทยังสามารถสร้างผลตอบแทนให้เป็นอย่างดี แต่เนื่องจากขนาดของพอร์ตลงทุนยังมีอยู่ไม่มาก ดังนั้น ในอนาคตอาจจะต้องมีการขยายพอร์ตเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว พร้อมทั้งขยายทีมงานเพิ่มขึ้นด้วย
"พอร์ตการลงทุนของบริษัทฯยังมีอยู่แต่ไม่เยอะเท่าไร ก็คิดว่าจะขยายเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว โดยคิดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกหลาย ๆ อย่าง ทั้งทีมงาน, แหล่งเงินทุนอะไรต่างๆ ถ้าพร้อมเราก็น่าจะขยายทางด้าน Prop. trade ด้วย ปัจจุบัน บริษัทก็มี Prop. trade อยู่แต่ไม่มากอะไร"นายช่วงชัย กล่าว
*มั่นใจหุ้นไทยหลังเลือกตั้งจะดี-Flow ต่างชาติจะกลับมา
นายช่วงชัย กล่าวอีกว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยหลังการเลือกตั้งน่าจะดี แม้อาจจะมีการประโคมข่าวคาดการณ์ว่าจะมีความวุ่นวายหลังการเลือกตั้ง แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่าสถานการณ์จะไม่มีความวุ่นวายมากนัก ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไรก็ตาม ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของไทยในช่วงครึ่งปีหลัง มองกันว่าจะออกมาดีกว่าครึ่งปีแรก ดังนั้น จึงน่าเป็นจุดที่ดึงให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาเทรดหุ้นไทยได้อีก
"ภาวะตลาดฯหลังเลือกตั้งแล้วน่าจะดีนะ แม้ว่าต่างชาติมีการประโคมว่าจะวุ่นวาย แต่ผมว่าไม่วุ่นวายหรอก ผลการเลือกตั้งเป็นยังไง มันก็ต้องเป็นอย่างงั้น คงไม่มีใครที่จะออกมาสร้าง...หรืออะไรทันทีทันใด ผมคิดว่าภายในปีนี้คงจะไม่มีใครที่จะอ้างความชอบธรรมแล้วมาสร้างความวุ่นวาย พอผลการเลือกตั้งผ่านไป แล้วนักลงทุนต่างชาติก็จะเห็นว่าไม่มีอะไร ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของเราในครึ่งปีหลังก็จะดีกว่าครึ่งปีแรกอีก ก็น่าจะดึงนักลงทุนต่างประเทศกลับมาได้"นายช่วงชัย กล่าว