นายวิชัย พรกีรติวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท.(PTT) เปิดเผยว่า กรณีเกิดเหตุท่อส่งก๊าซธรรมชาติรั่วบริเวณห่างจากจุดท่อฯ ขึ้นที่ชายฝั่งทะเลระยองประมาณ 325 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น จากการตรวจสอบพบว่า จุดที่ก๊าซฯ รั่วเป็นบริเวณท่อฯ ต่อเชื่อมระหว่างท่อฯ ประธานในทะเลขนาด 34 นิ้ว(ท่อเส้นที่ 1) กับท่อย่อย(24 นิ้ว) ที่ส่งก๊าซฯ มาจากแหล่งปลาทอง
โดยเช้านี้ บริษัทฯ ได้ส่งอุปกรณ์สำรวจใต้น้ำ ROV(Remotely Operated Vehicle) ลงไปตรวจสอบ เพื่อจะนำข้อมูลมาประเมินและเร่งดำเนินการแก้ไขซ่อมแซม เบื้องต้นบริษัทฯ มีความจำเป็นต้องหยุดส่งก๊าซผ่านท่อฯ ประธานเส้นดังกล่าวเป็นการชั่วคราว และอยู่ระหว่างการประเมินระยะเวลาในการดำเนินการแก้ไขซ่อมแซม
จากเหตุดังกล่าวทำให้ความสามารถในการส่งก๊าซธรรมชาติมีปริมาณลดลงประมาณ 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งกระทบต่อการส่งก๊าซธรรมชาติให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) และโรงแยกก๊าซธรรมชาติ โดยบริษัทฯ อยู่ระหว่างการจัดหาน้ำมันเตาปริมาณ 30 ล้านลิตรให้กับโรงไฟฟ้า พร้อมทั้งมีแผนจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) รวมทั้งจัดหาก๊าซฯ จากแหล่งอื่นๆ เข้ามาเสริม ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการ
นายวิชัย กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในทะเล ทั้งสิ่งมีชีวิต คุณภาพน้ำทะเล และสิ่งแวดล้อมอื่นๆ เนื่องจากก๊าซธรรมชาติมีคุณสมบัติเบากว่าอากาศ ไม่ละลายน้ำ และไม่มีสิ่งเจือปนอื่นๆ ที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตามบริษัทฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเร่งดำเนินการแก้ไขโดยเร็วที่สุด