ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบหลังมูดีส์ขู่ลดเครดิตแบงก์อิตาลี

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 มิ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรปได้กดดันให้นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือธนาคารเอกชน 16 แห่งของอิตาลี ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้บดบังการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ และยังได้บดบังรายงานของสถาบัน Ifo ที่ระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย.

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.1% แตะที่ 263.98 จุด

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดลบ 2.99 จุด หรือ 0.08% แตะที่ 3,784.80 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดร่วง 28.06 จุด แตะที่ 7,121.38 จุด

หุ้นธนาคารของอิตาลีร่วงอย่างหนัก หลังจากมูดีส์ประกาศทบทวนอันดับความน่าเชื่อว่าตราสารหนี้ระยะยาวและเงินฝากของธนาคารเอกชน 16 แห่งของอิตาลี และสถาบันการเงินของรัฐบาลอิตาลีอีก 2 แห่ง โดยเตือนว่าธนาคารเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ

การประกาศทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารอิตาลีมีขึ้นหลังจากมูดีส์ได้ประกาศทบทวนแนวโน้มความน่าเชื่อถือของประเทศอิตาลี โดยเตือนว่ามีความเป็นไปได้ที่มูดีส์จะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลี หลังจากเศรษฐกิจภายในประเทศขยายตัวเพียงเล็กน้อย ในขณะที่ตัวเลขหนี้สาธารณะมีอยู่สูงถึง 120% ของตัวเลขจีดีพี ซึ่งเป็นสัดส่วนสูงสุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในยุโรป

ทั้งนี้ หุ้นธนาคาร Unione di Banche Italiane ScpA (UBI) ของอิตาลี ปิดลบ 0.9% ขณะที่หุ้นธนาคารยูนิเครดิต เอสพีเอ ปิดร่วงลง หุ้นธนาคารอินเทซา ซานเปาโล เอสพีเอ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับสองของอิตาลีปิดร่วงลง 4.3%

นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารของประเทศอื่นๆในยุโรปยังร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นธนาคารบีเอ็นพี พาริบาส์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของฝรั่งเศส ปิดร่วงลง 2.1% ขณะที่หุ้นดอยช์ แบงก์ ธนาคารรายใหญ่สุดของเยอรมนีปิดลบ 1.4%

ข่าวมูดีส์ขู่ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารอิตาลีได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานของสถาบัน Ifo ที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีขยายตัวที่ระดับ 114.5 จุดในเดือนมิ.ย. จากระดับ 114.2 จุดในเดือนพ.ค. สวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะหดตัวลง นอกจากนี้ ข่าวดังกล่าวยังบดบังปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่ากระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศปรับเพิ่มการประมาณการอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาสแรกปีนี้เป็น 1.9% จากการประมาณการครั้งก่อนที่ระดับ 1.8% เนื่องจากภาคเอกชนปรับเพิ่มสต็อกสินค้าคงคลัง

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้นหลังจากราคาโลหะทองแดงในตลาดลอนดอนปรับตัวขึ้น โดยหุ้นอันโตฟากัสต้าปิดพุ่ง 2.3% หุ้นเอ็กสตาต้าปิดบวก 2.2%