พลโทวิจัย จันทรานุตร รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม (NEP) ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งหลังปี 54 บริษัทได้ปรับแนวทางการดำเนินงาน โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตที่จะมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เช่น กระสอบกราเวียร์ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาพบว่ายอดขายผลิตภัณฑ์ประเภทกระสอบกราเวียร์เพิ่มสูงขึ้น มีแนวโน้มการเติบโตสูงและได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งในขณะนี้มีคำสั่งซื้อล่วงหน้าเต็มกำลังการผลิตแล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นคำสั่งซื้อจากภาคการสินค้าเกษตร และอาหารสัตว์ที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
และบริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ พร้อมเตรียมวางแนวทางการตลาดให้ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภค เพื่อช่วยให้ยอดการจำหน่ายเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์สินค้าประเภท Label และ Shink film ซึ่งหากโรงงานในเฟสแรกก่อสร้างแล้วเสร็จ จะสามารถดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ทันที โดยตั้งเป้าหมายการผลิตอยู่ที่ 250 ตันต่อเดือน พลโท วิจัย กล่าวอีกว่า สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ยังมีการแข่งขันสูงโดยมีผู้ผลิตรายใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก แต่บริษัทฯ ถือว่ามีข้อได้เปรียบ เมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่นๆ เนื่องจากอยู่ในธุรกิจนี้มายาวนาน มีความเชี่ยวชาญ และผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐาน
สำหรับในปี 54 บริษัทมั่นใจจะมีรายได้เติบโตตามเป้าหมายที่ 40 % จากปีก่อน เนื่องจากบริษัทได้เพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ และจัดซื้อเครื่องจักรใหม่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และจะส่งผลให้บริษัทฯมียอดขายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่เขตนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดนครราชสีมานั้น ขณะนี้การก่อสร้างได้ดำเนินการไปตามแผนงานที่วางไว้ในส่วนของมาสเตอร์แพลน โดยอยู่ในช่วงขั้นตอนเทคานคอดิน และเตรียมหล่อเสาและสร้างโครงหลังคาของโรงงานที่ 1 และก่อสร้างในส่วนอาคารสำนักงาน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือน ก.ย.54 ตามแผนที่ไว้อย่างแน่นอน