ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (28 มิ.ย.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการในสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่ารัฐสภากรีซจะผ่านร่างมาตรการรัดเข็มขัดระยะ 5 ปี ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่สำคัญของการรับเงินช่วยเหลืองวดใหม่จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานราคาบ้านที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในสหรัฐ และการพุ่งขึ้นของหุ้นไนกี้ หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 145.13 จุด หรือ 1.21% ปิดที่ 12,188.69 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 16.57 จุด หรือ 1.29% ปิดที่ 1,296.67 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้น 41.03 จุด หรือ 1.53% ปิดที่ 2,729.31 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 3.2 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 4 ต่อ 1
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า รัฐสภากรีซจะผ่านร่างมาตรการรัดเข็มขัดระยะ 5 ปี โดยการอภิปรายในรัฐสภาของกรีซในขณะนี้ครอบคลุมถึงร่างกฎหมายการลดงบประมาณการใช้จ่ายมูลค่า 2.8 หมื่นล้านยูโร (4.032 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ), การปรับขึ้นภาษี และโครงการแปรรูปรัฐวิสาหกิจมูลค่า 5 หมื่นล้านยูโร (7.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งมาตรกรเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ด้านการคลังระยะกลางที่จะนำมาใช้ในปี 2558 และเป็นข้อกำหนดที่สำคัญของการได้รับเงินกู้งวดใหม่จากไอเอ็มเอฟและอียู
นายเอแวนเจลอส เวนีเซลอส รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลังของกรีซ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า รัฐสภากรีซจะอนุมัตมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่ ซึ่งจะช่วยให้กรีซมีคุณสมบัติมากพอที่จะรับเงินเบิกจ่ายเงินกู้งวดที่ 5 มูลค่า 1.2 หมื่นล้านยูโร (1.69 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ได้ทันเวลาในเดือนก.ค. โดยเงินเบิกจ่ายงวดที่ 5 นั้นเป็นส่วนหนึ่งของเงินกู้วงเงินกู้รวม 1.10 แสนล้านยูโร (1.57 แสนล้านดอลลาร์) ที่อียูและไอเอ็มเอฟอนุมัติให้กับกรีซเมื่อเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว เพื่อแลกกับการที่กรีซจะต้องใช้มาตรการรัดเข็มขัดและปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อลดการขาดดุลการคลังตามที่ให้คำมั่นสัญญาไว้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ รายงานว่า ดัชนีราคาบ้านใน 20 เขตเมืองของสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนเม.ย. สูงกว่าที่ตลาดวอลล์สตรีทคาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.3% และเป็นการปรับตัวขึ้นรายเดือนเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้น
ทั้งนี้ การฟื้นตัวของดัชนีราคาบ้านในสหรัฐช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตลาดที่อยู่อาศัยดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นโฮมดีโปท์ ปิดบวก 2.4%
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กสามารถปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ แม้คอนเฟอเรนซ์ บอร์ดรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.ของสหรัฐร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 58.5 จุด จากระดับ 61.7 จุดของเดือนพ.ค. เนื่องจากผู้บริโภคยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจในวันข้างหน้า
หุ้นไนกี้พุ่งขึ้นกว่า 10% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่สูงเกินคาด พร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์ยอดขายในระยะยาว ซึ่งผลประกอบการที่แข็งแกร่งของไนกี้นั้น ช่วยหนุนดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภคดีดตัวขึ้น 1.9% และดัชนีหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 1.5% โดยหุ้นคาเตอร์พิลลาร์ที่ปิดพุ่งขึ้น 3%
อย่างไรก็ตาม หุ้นอัลเทรีย กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายบุหรี่รายใหญ่ในสหรัฐ ปิดร่วง 1.5% หลังจากคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) ประกาศทบทวนงานวิจัยที่บ่งชี้ว่า บุหรี่ผสมสารเมนทอลมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ วันพุธ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนพ.ค. วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจรัฐนิวยอร์คเดือนมิ.ย.และสมาคมผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแห่งชาติ (NAPM) จะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนมิ.ย. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนพ.ค. และ ISM จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนมิ.ย.