ตลาดหุ้นยุโรปยังคงเดินหน้าปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (28 มิ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า นายจอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีกรีซจะสามารถโน้มน้าวให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของกรีซลงมติผ่านร่างมาตรการรัดเข็มขัด เพื่อปูทางสู่การรับเงินช่วยเหลืองวดใหม่จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู)
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 0.5% ปิดที่ 265.23 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3851.89 บวก 55.34 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 7170.43 บวก 62.53 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่ารัฐสภากรีซจะผ่านร่างมาตรการรัดเข็มขัดระยะ 5 ปี ซึ่งครอบคลุมถึงการลดงบประมาณการใช้จ่ายมูลค่า 2.8 หมื่นล้านยูโร (4.032 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ), การปรับขึ้นภาษี และโครงการแปรรูปรัฐวิสาหกิจมูลค่า 5 หมื่นล้านยูโร (7.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งมาตรกรเหล่านี้เป็นข้อกำหนดที่สำคัญของการได้รับเงินกู้งวดใหม่จากไอเอ็มเอฟและอียู
หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นหลังจากสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 3 ของอังกฤษปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการ ทั้งในส่วนของกำไรก่อนหักภาษีและรายได้จากการดำเนินงาน ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด พุ่งขึ้น 2.7% หุ้นธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดบวก 4.2% หุ้นธนาคารบาร์เคลย์สปิดบวก 1.9% และหุ้นธนาคารลอยด์ แบงกิง ปิดบวก 1.8%
หุ้นพรูเดนเชียลปิดบวก 2.6% หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นพรูเดนเชียล
ดัชนี ASE ตลาดหุ้นกรีซพุ่งขึ้น 2.7% โดยหุ้นธนาคารอัลฟา แบงก์ ทะยานขึ้น 4.3% หุ้นเนชันแนล แบงก์ ออฟ กรีซ ปิดบวก 5.4% และหุ้นอีเอฟจี ยูโรแบงก์ เออร์กาเซียส์ ปิดบวก 5.8%
หุ้นอาดิดาส ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าด้านกีฬารายใหญ่อันดับสองของโลก ปิดพุ่งขึ้น 3.9% และหุ้นพูมาปิดบวก 2.6% หลังจากบริษัทไนกี้ อิงค์ ผู้ผลิตสินค้าด้านกีฬารายใหญ่อันดับหนึ่งของโลก เปิดเผยผลประกอบการเพิ่มขึ้นเกินคาด