บมจ.เอกรัฐ วิศวกรรม (AKR) เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมมือกับบริษัท TMC Transformer Italiea Spa ขยายธุรกิจตลาดหม้อแปลง DRY TYPE CAST RESIN เพื่อตั้งเป้าขยายตลาดในภูมิภาคเอเซียมากขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และมาตรฐานระดับโลก จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งโรงงานผู้ผลิตหม้อแปลงปกล่าวในภูมิภาคเอเซียยังมีไม่มากนัก
ปัจจุบัน AKR มียอดขายและส่วนแบ่งการตลาดในประเทศสูงที่สุด เป็นตลาดในประเทศทั้งลูกค้าภาครัฐและเอกชน 80% และส่งออก 20% กว่า 20 ประเทศทั่วโลก
นายดนุชา น้อยใจบุญ กรรมการผู้จัดการ AKR คาดว่า การที่ได้บริษัท TMC Transformer Italiea Spa มาเป็นซัพพลายเออร์รายใหม่จะทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้น 100-150 ล้านบาทในปีนี้ และหากในอนาคตสามารถทำยอดขายได้ 250 ล้านบาท/ปีขึ้นไป ก็อาจจะมีการพิจารณาร่วมทุนธุรกิจด้านอื่น อาทิ การตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย
สำหรับยอดขายของ AKR ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมงานรับสร้างโซล่าร์ฟาร์มที่คาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 3/54 หากได้รับงานดังกล่าวก็น่าจะทำให้มีรายได้เข้ามาอีก 200 ล้านบาท
ในช่วงครึ่งแรกของปี 54 บริษัทคาดว่าจะมียอดขาย 700 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 600 ล้านบาท และในครึ่งปีหลังมีการเซ็นสัญญางานราชการกับการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) 200 ล้านบาท และงานเอกชนอีก 350 ล้านบาท และจากนี้ไปจะรับงานภาคเอกชนเข้ามาเพิ่มอีก เพื่อผลักดันให้ยอดขายปีนี้เป็นไปตามเป้าหมาย
นายดนุชา กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 55 บริษัทจะเน้นไปทำตลาดที่ตลาดตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น รวมทั้งขยายตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากที่เข้าไปในลาว พม่า มาเลเซีย และ บูรไน แล้ว ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการส่งออกให้มากกว่า 20% ในปัจจุบัน
ด้านกำไรเฉพาะของบริษัทปีนี้ คาดว่าจะทรงตัวเท่ากับปีก่อน โดยบริษัทจะรักษาอัตรากำไรสุทธิที่ 5-7% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 25% แม้ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้น แต่อัตรากำไรไม่ได้ปรับเพิ่ม เนื่องจากราคาวัตถุดิบ โดยเฉพาะทองแดงราคาปรับขึ้นมา 20% จาก 320 บาท/กก.เมื่อปลายปีที่แล้วเป็น 380 บาท/กก. ขณะที่ไม่ต้องตั้งสำรองขาดทุนบริษัทลูกเหมือนปีที่แล้ว และสรุปผู้ร่วมทุนรายใหม่ได้ก็น่าจะทำให้พลิกเป็นกำไรจากขาดทุนสุทธิในปีก่อน
"เป็นภาวะทั่วโลก ช่วงสั้นคงจะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ แต่เนื่องจากวัตถุดิบหลัก มีทั้งทองแดง และเหล็กซิลิคอน แต่ตอนนี้ทองแดงขึ้นอย่างเดียว ทำให้ยัง maintain ราคาขายได้อยู่ แต่ถ้าหากเหล็กมีการปรับด้วยก็อาจจะพิจารณาปรับขึ้นราคา" นายดนุชา กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทมีอัตราการใช้กำลังผลิตอยู่ที่ 80% หรือ 1.8 ล้าน KVA/ปี ซึ่งยังไม่จำเป็นต้องเพิ่มกำลังการผลิตในช่วงนี้
นายดนุชา กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องพันธมิตรของบริษัท เอกรัฐโซล่าร์ ว่า ปัจจุบันมีผู้แสดงความสนใจเข้ามาเจรจา เป็นรายใหม่ซึ่งเป็นผู้ประกอบการในประเทศ 2 ราย และบริษัทในเอเชีย 1 ราย คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน ธ.ค.54 โดยในช่วงต้นจะให้เข้ามาร่วมทุนถือหุ้นได้กว่า 75% จากที่ก่อนหน้านี้แม้จะมีการสรุปเรื่องพันธมิตรแล้ว แต่เนื่องจากนโยบายรัฐบาลไม่ชัดเจนทำให้ต้องหยุดไป และหาผู้ร่วมทุนใหม่