นายนิรันดร์ ธีรนาทสิน รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT)คาดว่าสิ้นปีงวดปี 54(สิ้นสุด ก.ย.54) จะมีผู้โดยสารถึง 65 ล้านคน และมีเที่ยวบิน 4.18 แสนเที่ยวบิน เมื่อเทียบกับงวดปี 53 เพิ่มขึ้น 13% และ 8% ส่วนใหญ่จะเป็นผู้โดยสารที่ท่าอาศยานสุวรรณภูมิที่มีจำนวนถึง 46.28 ล้านคน ขณะที่สนามบินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีศักยภาพรับผู้โดยสารได้ 45 ล้านคน/ปี
"ในปีงบประมาณ 54 คาดว่าจะมีสถิติผู้ใช้บริการสูงสุดตั้งแต่ประกอบการ เนื่องจากสถิติผู้โดยสารและเที่ยวบินในรอบ 8 เดือน(ต.ค.53-พ.ค.54) ท่าอาศยานทั้ง 6 แห่งมีผู้โดยสารรวม 44.77 ล้านคน ปริมาณเที่ยวบินขึ้นลงรวม 2.95 แสนเที่ยวบิน"นายนิรันดร์ กล่าว
นายนิรันดร์ กล่าวว่า บริษัทหันมาดำเนินโครงการสร้างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศหลังใหม่ที่สนามบินสุวรรณภูมิก่อน โดยใช้งบประมาณ 9,133.5 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถรองรับผู้โดยสารในประเทศถึง 20 ล้านคนต่อปี ปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสด ประมาณ 2 หมื่นกว่าล้านบาทเพียงพอต่อการลงทุน
ขณะที่การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศเฟสสองใช้งบประมาณสูงถึง 6.2 หมื่นล้านบาท แม้ว่าคณะรัฐมนตรี(ครม.)จะอนุมัติโครงการไปแล้ว ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการบริษัทเดือนก.ค.นี้จะพิจารณาว่าจะศึกษาแผนรายละเอียดโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ และแผนปรับปรุงงานก่อสร้างสุวรรณภูมิ เฟสสอง นายนิรันดร์ กล่าวว่า ด้านท่าอากาศยานดอนเมืองจะย้ายการให้บริการจากอาคารผู้โดยสารภายในประเทศไปยังอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศเดิท อาคาร 1 แทน เพราะมีศักยภาพรองรับผู้โดยสารได้ถึง 16 ล้านคน/ปี ในวันที่ 1 ส.ค.54 เนื่องจากคาดว่าสิ้นปี 54 จะมีผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 3.9 ล้านคน
อย่างไรก็ดี รัฐบาลใหม่จะต้องกำหนดนโยบายให้ชัดเจนว่ามีนโยบายสนามบินเดียว หรือมีสองสนามบิน
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด AOT คาดว่า สนามบินดอนเมืองในงวดปี 55 จะพลิกมีกำไร จากปัจจุบันที่ขาดทุนราว 1 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทกำลังเข้าไปพัฒนาพื้นที่ในสนามบินดอนเมือง
ปัจจุบัน บริษัทมีพื้นที่เปล่ารวม 4 พันไร่ที่ไม่สามารถสร้างรายได้ โดยส่วนใหญ่อยู่ที่สนามบินเชียงรายประมาณ 3 พันไร่ และบริษัทได้ปรับขึ้นค่าเช่าแล้วและจะมีผลในปีหน้า รวมทั้งจะเปิดให้เอกชนเช่าพื้นที่ทำธุรกิจโลจิสติกส์ ซึ่งมีเอกชนเริ่มเข้ามาในปี 55 ดังนั้นค ดว่าในปี 57 จะมีรายได้ที่ไม่ใช่ธุรกิจการบิน(non Aero)เติบโตในอัตราเร่งตัวจากครึ่งแรกปี 54 มีสัดส่วนรายได้ non Aero 38% ส่วนรายได้จากธุรกิจการบินอยู่ที่ 62%
ด้านนางสุภาภรณ์ บูรพกุศลศรี รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายงานแผนงานและการเงิน AOT คาดว่า รายได้รวมปี 54 จะเติบโตประมาณ 10% สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้เติบโต 6% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2.7 หมื่นล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิปีนี้คาดว่าจะมีอัตราเติบโตแนวเดียวกับรายได้
ครึ่งปีแรก(ต.ค. 53-มี.ค.54)บริษัทรายได้รวม 1.4 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 2.4 พันล้านบาท ซึ่งทำได้ดีกว่าเป้าหมายเนื่องจากมีจำนวนผู้โดยสารเข้ามามาก หลังสถานการณ์การเมืองปีนี้สงบและอยู่ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว
ส่วนครึ่งปีหลัง(เม.ย - ก.ย 54) คาดว่า รายได้กำไรจะต่ำกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากไตรมาส 3/54 เป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว แต่จำนวนผู้โดยสารและผลประกอบการจะดีกว่าในไตรมาส 3/53 โดยในเดือน พ.ค.54 มีผู้โดยสารสัญชาติจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นมาก ฟื้นตัวกลับสู่แนวโน้มการเติบโตปกติจากที่เคยลดลงเพราะเหตุการณ์ทางการเมืองในปีที่ผ่านมา และในช่วง 8 เดือนผู้โดยสารเติบโต 11.86%
"คาดว่ารายได้รวมทั้งปีทำได้เกินเป้าผู้โดยสารเข้ามาเยอะมาก ปีนี้เกิน 45 ล้านคน มากกว่า capacity ที่เรามีคงมีค่าใช้จ่ายในการอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น" นางสุภาภรณ์ กล่าว