นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการ คอนโดมิเนียม บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า ช่วงใน 5 เดือนแรกของปี 54 บริษัทสามารถสร้างยอดขายโครงการคอนโดมิเนียมได้รวม 3,000 ล้านบาท เกินเป้ายอดขายครึ่งปีแรกที่เคยคาดไว้ที่ 2,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ เป็นผลจากคุณภาพและการออกแบบโครงการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบันภายใต้แนวคิด “Vertical Living" ที่พลิกวิถีคิดของที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมจากการเป็นแค่ “ที่อยู่" สู่ “ที่ที่ใช้ชีวิต" ที่ลูกบ้านคอนโดมิเนียมแสนสิริสามารถใช้ชีวิตเมืองแบบ “Vertical Living: ที่สะดวกสบายในแบบที่ตัวเองและครอบครัวต้องการ พร้อมดื่มด่ำกับสุนทรียรสจากการดีไซน์และสังคมคุณภาพ
สำหรับยอดขายของโครงการคอนโดมิเนียมในระดับราคา 1-4 ล้านบาทมียอดขายต่อเนื่องสูงที่สุด เนื่องจากคนซื้อส่วนใหญ่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง รวมทั้งการออกแบบและสถานที่ตั้งของโครงการของแสนสิริก็ตอบรับพฤติกรรมการอยู่อาศัยของกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดีเพราะใกล้รถไฟฟ้าและใกล้แหล่งชุมชนที่เดินทางสะดวก
นอกจากนั้น ยังมีมาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยหลังแรกของรัฐบาลเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจได้เร็วยิ่งขึ้น โดยเห็นได้จากการที่โครงการ dCondo รามคำแหงและ dCondo อ่อนนุช — สุวรรณภูมิ ที่ปิดโครงการก่อนกำหนด รวมทั้งโครงการ Hive Taksin ซึ่งอยู่ในระดับ B-Segment ก็สามารถปิดโครงการได้เมื่อไม่นานที่ผ่านมา
ขณะที่โครงการ Ceil by Sansiri, The Base,และ blocs 77 ก็มียอดขายถึง 60%, 95% และ 85% ตามลำดับ ซึ่งคาดว่าจะสามารถปิดสองโครงการหลังได้ภายในปีนี้
อย่างไรก็ตาม โครงการที่เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน (A-Segment) ก็ยังคงได้รับความนิยมเช่นกัน หากตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นที่นิยม รวมทั้งมีคุณภาพและการออกแบบโครงการที่โดดเด่น เห็นได้จากยอดขายของ Quattro by Sansiri ที่แม้จะมีระดับราคาที่ค่อนข้างสูง คือ 8.9-36 ล้านบาท แต่ก็มียอดขายสูงถึง 85% โดยแสนสิริวางเป้าว่าจะสามารถปิดโครงการนี้ได้ภายในสิ้นปี 54 นี้อีกเช่นกัน
"ปัจจุบัน แสนสิริเหลือจำนวนยูนิตพร้อมขายของคอนโดมิเนียมไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ดังนั้น บริษัทฯ จึงต้องเร่งแผนการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ให้เร็วขึ้น โดยคาดการณ์ว่าภายในครึ่งปีหลัง เราจะนำเสนอโครงการใหม่ๆ สู่ตลาดประมาณ 9โครงการ รวมมูลค่ากว่า 17,700 ล้านบาท เพื่อตอบฐานลูกค้าที่แสดงความประสงค์จะเข้ามาเป็นสมาชิกของครอบครัวแสนสิริ โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมในระดับราคา 1-3 ล้านบาท"นายอุทัย กล่าว
ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมครึ่งปีหลัง 2554 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้โครงการคอนโดมิเนียมอาจจะไม่สามารถปิดโครงการได้อย่างรวดเร็วภายในวันเดียวเหมือนในอดีต เนื่องจากกลุ่มนักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เริ่มลดน้อยลง แต่คนซื้อคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ในปัจจุบันเป็นการซื้อเพื่ออยู่จริง ดังนั้น แม้ยอดขายจะไม่หวือหวา แต่ก็รับประกันได้ว่าจะไม่มีการเกิดฟองสบู่ที่โครงการคอนโดมิเนียมล้นตลาด โดยพื้นที่ติดรถไฟฟ้าและใจกลางแหล่งชุมชนยังคงเป็นบริเวณที่ได้รับความนิยม