ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 ก.ค.) โดยการนำของหุ้นกลุ่มธนาคาร เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่ากรีซจะสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้ หลังจากรัฐสภากรีซมีมติผ่านร่างกฎหมายรัดเข็มขัดฉบับที่ 2 เพื่อปูทางสู่การรับเงินกู้งวดใหม่จากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)
ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 44.05 จุด หรือ 0.7% ปิดที่ 5,989.76 จุด ส่งผลให้ตลอดสัปดาห์ดัชนีปรับตัวสูงขึ้น 5.1% นับว่าขยายตัวรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี
นักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนเห็นว่าการที่กรีซมีโอกาสผิดนัดชำระหนี้น้อยลงเป็นผลดีต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร จึงตัดสินใจลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัว โดยหุ้นลอยด์ส แบงค์กิง กรุ๊ป พีแอลซี บวก 3.7% และหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ กรุ๊ป พีแอลซี ขยายตัว 3.2%
อีกปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นตลาดหุ้นลอนดอนคือ การที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ขยายตัวแตะ 55.3 จุดในเดือนมิถุนายน จากระดับ 53.5 จุดในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเหนือความคาดหมายของตลาด