ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ก.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นคาร์ฟูร์ และรายงานยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของปัญหาหนี้ยุโรป หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสลงสู่ระดับขยะ
ดัชนี Stoxx 600 ปรับตัวขึ้นเกือบ 0.1% ปิดที่ 275.62 จุด ดัชนี FTSEurofirst 300 ของหุ้นกลุ่มบลูชิพทั่วยุโรปดีดขึ้น 0.06% ปิดที่ 1,122.23 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวก 6.49 จุด หรือ 0.1% แตะที่ 6,024.03 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสขยับลง 24.28 จุด ปิดที่ 3978.83 จุด และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีขยับลง 3.52 จุด แตะที่ 7439.44 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากหุ้นคาร์ฟูร์ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ระดับโลก พุ่งขึ้น 4.5 % หลังจากคาร์ฟูร์นำกิจการ เดีย (Dia) ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านขายสินค้าราคาถูกเข้าจดทะเบียนในสเปน
หุ้นทุลโลว์ ออยล์ ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจแหล่งพลังงานรายใหญ่ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 3.8% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลผลิตในปี 2554 และประกาศแผนการขยายแหล่งสำรวจน้ำมันนอกชายฝั่งเซียราลีโอน และเคนยา
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.พุ่งขึ้นเกินคาด 0.8% สู่ระดับ 4.453 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายโดยรวมยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องปัญหาหนี้ยุโรป โดยดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดลบ หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของโปรโตเกสลงสู่ "ระดับขยะ" เพราะกังวลว่ารัฐบาลโปรตุเกสจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการลดยอดขาดดุลงบประมาณได้
นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของปัญหาหนี้กรีซ แม้หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะยังคงยอมรับพันธบัตรของรัฐบาลกรีซในฐานะหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้ยืม (collateral) สำหรับเงินกู้ที่ปล่อยให้กับธนาคารพาณิชย์ ตราบใดที่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือไม่ได้ชี้ชัดว่ากรีซเป็นประเทศที่ผิดนัดชำระหนี้