ROJNA คาดกำไรสุทธิปี54 ดีขึ้น ขายที่ดินได้ทะลุเป้าหลังญี่ปุ่นฟื้นเร็ว

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 7, 2011 11:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (ROJNA) คาดกำไรสุทธิปีนี้ดีกว่าปีก่อน และมีโอกาสสูงที่จะเห็นยอดขายสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 600 ไร่ หลังมีสัญญาณที่ดีที่ลูกค้าเข้ามาดูพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมจำนวนมากกว่าปีก่อน ขณะที่ญี่ปุ่นฟื้นตัวได้เร็วกว่าคาดหลังประสบเหตุภัยพิบัต ทำให้เร่งขยายการลงทุนนอกประเทศมากขึ้น

นางสาวอมรา เจริญกิจวัฒนกุล กรรมการ ROJNA เปิดเผย "อินโฟเควสท์" ว่า ในปี 54 เชื่อว่าบริษัทจะมีกำไรสูงกว่า ปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 929.5 ล้านบาท จากไตรมาส 1/54 ที่มีกำไรแล้ว 230 ล้านบาท และไตรมาส 2/54 มีแนวโน้มที่ดี เห็นได้จากมีจำนวนลูกค้าที่ขอดูพื้นที่จำนวนมาก ขณะที่เหตุภัยพิบัติในประเทศญี่ปุ่น มีผลกระทบแค่ช่วงสั้น โดยที่ญี่ปุ่นสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่คาด และโรงงานที่มีความเสียหายในญี่ปุ่น เร่งขยายการลงทุนออกนอกประเทศมากขึ้น

และจากการเห็นสัญญาณที่มีลูกค้าเข้ามาดูพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมจำนวนมากกว่าปีก่อน ทำให้มีโอกาสที่ยอดขายที่ดินปีนี้จะสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 600 ไร่ ซึ่งลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่นยังมองไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุนอันดับต้นๆ อยู่ ทั้งนี้ปัจจุบัน บริษัทมีที่ดินรอการพัฒนาเพื่อขายประมาณ 2,000 ไร่ ส่วนใหญ่อยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอยุธยาซึ่งมียอดขายที่ดี เนื่องจากอยู่ใกล้กรุงเทพฯ และมีแหล่งน้ำที่ดี

"ปีนี้ค่อนข้างดี มีลูกค้าแวะเวียนมาดูโครงการของเราค่อนข้างเยอะกว่าปีที่แล้ว แต่จะเลือกเราหรือไม่ก็อีกเรื่อง เพราะมีกันอยู่ไม่กี่แห่ง แต่ดูแล้วมีโอกาสสูงที่เราจะขายที่ดินได้สูงกว่าที่ตั้งไว้ 600 ไร่ แต่ตอนนี้เราก็ยังไม่ปรับเป้า" นางสาวอมรา กล่าว

*โครงการคอนโดมิเนียมในจีนไม่กระทบ

จากการที่จีนมีปัญหาเรื่องเงินเฟ้อที่อยู่ระดับสูง ทำให้รัฐบาลจีนออกมาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อไม่ให้เกิดการเก็งกำไร แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายของโครงการ โดยโครงการคอนโดมิเนียม Kaina Business Plaza ในขณะนี้เหลือประมาณ 10% ของจำนวนยูนิตที่ขายทั้งหมด คาดว่าโครงการ 1 จะปิดการขายได้ภายในสิ้นปี 54 เนื่องจากก่อสร้างแล้วเสร็จแล้ว ส่วนโครงการ 2 ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ คาดว่าจะปิดการขายได้ในปี 55

"หลังการเปิดตัวทั้ง 2 โครงการจนถึงขณะนี้มียอดขายเกิดจุดคุ้มทุนไปแล้ว ส่วนจะมีการเปิดโครงการ 3 ต่อหรือไม่ คงต้องรอดูมาตรการคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อของรัฐบาลจีนให้คลายตัวก่อน" น.ส.อมรา กล่าว

ส่วนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ โครงการคอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิท พื้นที่ประมาณ 20,000 ตร.เมตร มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดขายโครงการได้ในช่วงปลายไตรมาส 3/54-ต้นไตรมาส 4/54 ขณะนี้อยู่ในช่วงทำการสำรวจตลาดเพื่อกำหนดราคาขาย ขณะที่โครงการย่านรัตนาธิเบศร์ คาดว่าจะมีการเปิดโครงการในอีก 2 ปี โดยรอให้การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงแล้วเสร็จก่อน

"นโยบายของเราในการเปิดโครงการต้องมีความเชื่อมั่นค่อนข้างสูงจึงจะทำ เพราะหากเราไม่มั่นใจก็ยังไม่ทำ" น.ส.อมรา กล่าว

*สร้างโรงไฟฟ้า SPP3 -โซลาร์เซลล์ 3 เฟส

น.ส.อมรา กล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัทมีการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า 45 เมกะวัตต์ และการก่อสร้างโรงไฟฟ้า SPP2 กำลังการผลิต 110 เมกกะวัตต์ ซึ่งจะเข้าสู่ระบบและรับรู้รายได้ในปี 56 และบริษัทได้รับอนุญาตการก่อสร้างโรงไฟฟ้า SPP3 กำลังการผลิต 110 เมกะวัตต์ โดยจะจ่ายไฟเข้าสู่ระบบในปี 59-60

นอกจากนี้บริษัทยังได้รับอนุญาตการผลิตไฟฟ้าในระบบโซล่าเซลล์ 3 เฟส กำลังการผลิตเฟสละ 8 เมกะวัตต์ ซึ่งเฟสแรกจะเริ่มก่อสร้างและรับรู้รายได้ในปี 55

โดยปัจจุบัน สัดส่วนกำไรของบริษัท จะมาจากธุรกิจขายที่ดิน-อสังหาริมทรัพย์ 50% และ ธุรกิจขายไฟฟ้า น้ำ และบริการอื่นๆ และการลงทุนในบมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON) อีก 50% ซึ่งยอมรับว่า รายได้จากธุรกิจขายไฟฟ้า น้ำ ถือเป็นรายได้คงที่ แต่มีมาร์จิ้นน้อยกว่าธุรกิจขายที่ดิน ดังนั้นบริษัทยังคงมุ่งธุรกินนิคมอุตสาหกรรมและบริการต่อเนื่องเป็นหลัก

ทั้งนี้บริษัททยอยออกหุ้นกู้ในปีนี้ต่อเนื่อง จากที่ขออนุมัติที่ประชุมผู้ถือหุ้น วงเงิน 3,000 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อเป็นการปรับโครงสร้างต้นทุนการเงินให้ลดลง จากปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ MLR ลบ1-2% โดยล่าสุดบริษัทได้ออกหุ้นกู้แล้ว 3 รุ่น วงเงินรวม 1,300 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ