บลจ.เห็นพ้องศก.ครึ่งหลังโตต่อเนื่องหลังการเมืองชัดเจน ทำตลาดหุ้นโตตาม

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 7, 2011 16:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน เปิดเผยว่า มูลค่าตลาดรวมกองทุน (total net asset) ณ สิ้น 30 มิ.ย.54อยู่ที่ 2.045 ล้านล้านบาท เทียบกับสิ้นปีที่ 2.032 ล้านล้านบาท เติบโต 12,700 ล้านบาท คิดเป็น 0.62% เป็นการโตจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) 10,000 ล้านบาท หรือ 12.18% เพราะมีออกกองทุนใหม่ในช่วงครึ่งปีแรก

ส่วนภาพรวมครึ่งปีหลังในระยะสั้นหากรัฐบาลมีการปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำเป็น 300 บาท ตั้งแต่ 1 ม.ค.55 กลุ่มที่ได้ประโยชน์ คือ พาณิชย์ โรงแรม โรงพยาบาล ไอซีที บันเทิง หลักทรัพย์ กลุ่มเสี่ยง คืออิเล็กทรอนิคส์ รับเหมาก่อสร้าง นิคมอุตสาหกรรมเพราะใช้แรงงานจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัว 4.3-5.3% จะเป็นแรงส่งต่อภาคเกษตรที่ขยายตัว 7% หากไม่มีปัญหาภัยธรรมชาติ จากเศรษฐกิจภาคเกษตรครึ่งแรกปี 54 ที่เติบโตโต 7% จากปีก่อนที่หดตัว และมองเศรษฐกิจไทยในช่วง 2 ปีข้างหน้าจะขยายตัวในอัตรา 5% มองเอเชียยังน่าลงทุนอยู่ เช่น ทั้งจีน ส่วนไทยแม้จะอยู่ในขั้นตอนจัดตั้งรัฐบาลแต่นโยบายรัฐบาลจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยค่อนข้างมาก

นายนกุล ไชยนิท รักษาการกรรมการผู้จัดการ บลจ.ซีมิโก้ แนะลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอ เพราะที่ดินในไทยมีจำกัด ขณะที่ราคาที่ดินก็สูงขึ้น 10% ต่อปี มูลค่าอสังหาฯในไทยเทียบกับต่างประเทศราคายังไม่สูงมาก เช่น เทียบฮ่องกง สิงคโปร์ อัตราผลตอบแทนแค่ 4% แต่บ้านเรา 7-8% เพราะฉะนั้นในอนาคตก็ยังไปได้อีก

นายศุภกร สุนทรกิจ กรรมการผู้จัดการ บลจ.นครหลวงไทย กล่าวว่า ครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยน่าจะดีโตเกิน 4% นโยบายภาครัฐจะเป็นปัจจัยคาดหวังให้เศรษฐกิจเป็นบวกมากขึ้น กลยุทธ์การลงทุนถ้า 3 เดือนหน้าดอกเบี้ยไทยอยู่ระดับสูงสุด (peak) ให้กลับมาลงทุนในตราสารหนี้แต่ตอนนี้หลีกเลี่ยง ภาพรวมเชื่อว่าครึ่งปีหลังตลาดหุ้นไทยยังปรับขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงสินทรัพย์เสี่ยงอื่น

นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังยังเติบโตได้ดีพอควร หลังการเมืองไทยมีความชัดเจนแล้ว จากเดิมเป็นปัจจัยลบจากความไม่แน่นอน ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายมีโอกาสปรับขึ้นอีก 0.25-0.50% ดังนั้น หากลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศต้องเป็นช่วงสั้น แต่ถ้าระยะกลางแนะลงทุนกองทุนทองคำ เชื่อว่าระยะ 2-3 ปียังให้ผลตอบแทนได้เพราะถ้าย้อนหลัง 10 ปี ผลตอบแทนในทองคำไม่ต่ำกว่า 8% ทุกปี ซึ่งกองทุนทองคำขณะนี้มูลค่ารวมอยู่ที่ 1.4-1.5 หมื่นล้านบาท และในเดือน ส.ค.54 จะเห็นกองทุนทองคำเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีก 1 กอง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ