ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์พุ่ง 93.47 จุดหลังสหรัฐเผยข้อมูลแรงงานสดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 8, 2011 06:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลงเกินคาด และตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนบรรยากาศการซื้อขายในตลาดให้คึกคักก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในคืนวันศุกร์ตามเวลาไทย นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานยอดขายที่แข็งแกร่งของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ในสหรัฐด้วย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 93.47 จุด หรือ 0.74% ปิดที่ 12,719.49 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 14 จุดหรือ 1.05% ปิดที่ 1,353.22 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 38.64 จุด หรือ 1.36% ปิดที่ 2,872.66 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 3.6 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 4 ต่อ 1

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเนื่องจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวแข็งแกร่งขึ้นในไม่ช้านี้ โดยเมื่อวานนี้ ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 157,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 68,000 ตำแหน่ง

ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 ก.ค.ร่วงลง 14,000 ราย สู่ระดับ 418,000 ราย ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 420,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่องโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ปรับตัวลง 3,000 ราย สู่ระดับ 424,750 ราย

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) เดือนมิ.ย.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.จะเพิ่มขึ้น 90,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.จะลดลงสู่ระดับ 9%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงงานยอดขายที่แข็งแกร่งของบริษัทค้าปลีกในสหรัฐ รวมถึงบริษัทโคห์ล คอร์ป, ทาร์เก็ต คอร์ป และเออร์แบน เอาท์ฟิทเตอร์ส โดยราคาหุ้นเหล่านี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 6% ขณะที่ดัชนี S&P หุ้นกลุ่มค้าปลีกและดัชนีดาวโจนส์กลุ่มการขนส่งพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์พุ่งขึ้น 2.1% และดัชนีหุ้นกลุ่มวัสดุพุ่งขึ้น 1.5% หลังจากราคาโลหะในตลาดโลกทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้

อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กค่อนข้างบางเบาในสัปดาห์นี้ เนื่องจากตลาดปิดทำการในวันจันทร์ที่ 4 ก.ค.เนื่องในวันชาติสหรัฐ และเนื่องจากยังไม่มีการรายงานผลประกอบการของบริษัทรายใหญ่ๆของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย ส่วนในสัปดาห์หน้า บริษัทอัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของสหรัฐ จะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2

นอกเหนือจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมิ.ย.แล้ว นักลงทุนยังจับตาดูตัวเลขสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนพ.ค. ซึ่งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์เช่นกัน โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น 0.7%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ