หุ้น KC ราคาพุ่งขึ้น 2.53% มาอยู่ที่ 0.81 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3.52 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.10 น.โดยเปิดตลาดที่ 0.80 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุด 0.84 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.80 บาท
นายชาย งามอัจฉริยะกุล ผู้จัดการฝ่ายบริหาร บมจ.เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้(KC)เปิดเผยว่า คาดว่ายอดขายในปีนี้มีโอกาสที่จะเพิ่มจากเป้าหมายที่ 1 พันล้านบาท เนื่องจากยอดขายในไตรมาส 2/54 โดยเฉพาะในเดือนเม.ย.-พ.ค.เพิ่มขึ้นกว่า 50-60% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/54 ที่ยอดขายหดตัว
รวมทั้งยอดขายจากโครงการเดิม ประมาณ 15 โครงการ ที่ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการระบาย ทั้งการทำโปรโมชั่น การลดราคาขายในบางโครงการ โดยเฉพาะในสต็อค ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับความสนใจ ประกอบกับ มาตราการของรัฐบาลในการกระตุ้นภาคอสังหาฯ สนับสนุนเพิ่ม
ทั้งนี้ จากการบริหารสต็อคจะส่งผลต่ออัตรากำไรขั้นต้นให้ลดลง 2% จากปีก่อนที่ระดับ 32-33 % แต่ก็ทำให้บริษัทไม่มีหนี้ และบางส่วนมาใช้ในการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ซึ่งก็ยอมรับได้
สำหรับการพัฒนาโครงการใหม่ในครึ่งหลังปี 54 ตอนนี้คงเหลือเพียง 1 โครงการย่านรามคำแหง ใกล้ถนนวงแหวนบางประอิน-บางนาที่จะพัฒนาเป็นทาวน์โฮม และคาดว่าจะเปิดขายได้ในช่วงปลายปี 54 หรืออย่างช้าต้นปี 55 จากแผนการเปิด 2 โครงการใหม่
ส่วนที่ดินอีก 1 แห่งย่านคลองสามวาที่เดิมมีแผนจะพัฒนาโครงการ ตอนนี้มีผู้สนใจติดต่อซื้อที่ดิน 2-3 ราย ทั้งบริษัทในตลาดหลักทรัพย์และนอกตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะเสร็จสิ้นในไตรมาส 4/54 และจากการขายที่ดินดังกล่าวเม็ดเงินที่ได้บริษัทก็จะนำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียน และใช้ในการพัฒนาโครงการในอนาคต
"ผมว่าการที่หุ้นเราปรับขึ้นน่าจะมาจากภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ ที่ฟื้น และจากมาตราการกระตุ้นภาครัฐ ขณะที่เราเอง ยอดขายในเดือน 4 เดือน 5 ของปีนี้ก็เพิ่มขึ้น 50- 60% ซึ่งเป็นตัวชี้บ่งให้เห็นว่าธุรกิจเราน่าจะดี และทำให้มีโอกาสที่ยอดขายในปีนี้จะเพิ่มขึ้นด้วย"นายชาย กล่าว