หุ้น CPALL ราคาไหลลง 2.09% มาอยู่ที่ 46.75 บาท ลดลง 1 บาท มูลค่าซื้อขาย 520.30 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.10 น. โดยเปิดตลาดที่ 47 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 47 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 46.25 บาท
บล.กรุงศรีอยุธยา ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ในด้านบวกปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันอาจจะเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภคได้ประมาณ 10% แต่การขึ้นค่าแรงที่ฉับพลันจะเป็นตัวเร่งให้เกิดภาวะเงินเฟ้อสูง และก่อให้เกิดต้นทุนทางการเงินและต้นทุนการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจ (Cost push inflation) สูงขึ้นตามมา ผลกระทบทางตรงต่อกลุ่ม SME และจะย้อนกลับมาบั่นทอนกำลังซื้อในลำดับต่อไป
ทั้งนี้ บมจ.ซีพี ออลล์(CPALL)มีแนวโน้มจะได้รับผลบวกจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นแต่จะไม่สูงมากนัก เนื่องจากกำลังซื้อจะถูกลดทอนลงจากภาวะเฟ้อที่เป็นต้นเหตุหลัก ขณะที่ต้นทุนในการขายและบริหาร(21.5% ของรายได้ในไตรมาส 1/54) ก็มีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นด้วยเช่นกัน
ดังนั้น คาคหวังสำหรับ Best case ยังใช้เป็นตัวแทนของราคาเหมาะสมไม่ได้ ปัจจุบันราคาหุ้น CPALL มี upside จากราคาเป้าหมายในปี 54 เพียง 0.52% และด้วยผลตอบแทนที่จำกัด จึงคงคำแนะนำ “เก็งกำไร" โดยมีมูลค่าพื้นฐานปี 54 ที่ 48.0 บาท (DCF WACC 11.0%, Terminal growth 3.5%)