ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) โดยหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มประกันถูกกระหน่ำขายมากที่สุด เนื่องจากความกังวลที่ว่าปัญหาหนี้สาธารณะของกรีซอาจลุกลามไปยังประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่กว่าอย่างอิตาลีและสเปน
ดัชนี Stoxx Europe 600 Index ร่วงลง 1.4% ปิดที่ 269.9 จุด ดัชนี FTSEurofirst 300 หุ้นกลุ่มบลูชิพทั่วยุโรปร่วงลง 1.51% ปิดที่ 1,097.60 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีร่วงลง 172.48 จุด หรือ 2.33% ปิดที่ 7,230.25 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 7,188.96-7,358.50 จุด และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสร่วงลง 106.04 จุด หรือ 2.71% ปิดที่ 3,807.51 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,789.85-3,890.07 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลง 61.42 จุด ปิดที่ 5929.16 จุด
กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของปัญหาหนี้ในอิตาลีและสเปนได้ฉุดหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นยูนิเครดิต เอสพีเอ และหุ้นอินเตซา ซานเปาโล ซึ่งเป็น 2 ธนาคารยักษ์ใหญ่ของอิตาลีร่วงลงกว่า 6% หลังจากคอนซอบ (Consob) หรือสำนักงานกำกับดูแลตลาดการเงินของอิตาลี ออกแถลงการณ์ว่านักลงทุนที่จะทำชอร์ตเซลล์ต้องเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสถานะขายตั้งแต่วันจันทร์ที่ 11 ก.ค.จนถึงวันที่ 9 ก.ย.นี้
ส่วนหุ้นธนาคารคอมเมิร์ซ แบงก์ ของเยอรมนีร่วงลง 8.6% ขณะที่หุ้นแบงก์ ออฟ ไอร์แลนด์ ดิ่งลง 13% หลังจากธนาคารประกาศแผนระดมทุนมูลค่า 1.9 พันล้านยูโร
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของอิตาลีเพิ่มขึ้นเมื่อสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) เตือนว่า S&P อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า หากสถานการณ์ด้านหนี้สินของอิตาลียังคงถดถอย
หุ้นกลุ่มประกันร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้น Ageas ซึ่งใช้ชื่อว่า Fortis ร่วงลง 9.4% หุ้นอัลลิอันซ์ เอสอี ร่วงลง 4.1% และหุ้นไอเอ็นจี กรุ๊ป ร่วงลง 7.3%
หุ้นเฟียต ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของยุโรป ปิดร่วง 5.4% หลังจากโซซิเอเต เจเนอราล (ซอคเจน) ประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเฟียต