โบรกฯหนุน"ซื้อ"SVI รับแนวโน้มขาขึ้นธุรกิจ กำไรโตต่อเนื่อง 2-3 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 12, 2011 11:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์เห็นพ้องยกหุ้น บมจ.เอสวีไอ(SVI) เป็นหุ้น Top pick ของกลุ่มชิ้นส่วนฯที่มีศักยภาพในการเติบโตของผลการดำเนินงานต่อเนื่องในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า ทิศทางกำไรสุทธิใน 2H54 เข้าสู่ช่วงขาขึ้น มีลุ้นสรุปซื้อกิจการในยุโรปไตรมาส 3/54 ช่วยผลักดันผลดำเนินงานเติบโต เพราะเป็นจังหวะดีบาทแข็ง-กิจการยุโรปอ่อนแอ แต่ภาพรวมเศรษฐกิจมีโอกาสฟื้นตัวแน่นอน

          โบรกฯ                  คำแนะนำ          ราคาเป้าหมาย(บาท)
          บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)      ซื้อ                5.80
          บล.เอเซียพลัส              ซื้อ                6.30
          บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส         ซื้อ                5.50
          บล.ทรีนิตี้                  ซื้อ                6.05

น.ส.นารี อภิเศวตกานต์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป แนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.เอสวีไอ (SVI) ให้ราคาเป้าหมาย 5.80 บาท เป็น Top pick ของกลุ่มชิ้นส่วนฯในแง่ผลประกอบการ yoy โตขึ้นเยอะ แต่ qoq อาจชะลอเพราะยอดขายไตรมาส 2 ของอิเล็กฯจะอ่อนในแง่การขาย แต่โดยรวมทั้งปีน่าจะเติบโตได้ตามประมาณการที่ตั้งเป้า

ถึงแม้การซื้อกิจการยังไม่ชัดเจนแต่ถ้าสรุปผลได้น่าจะเป็นปัจจัยบวกในการขยายตลาดเพิ่มขึ้นเพราะมีลงทุนหลายอย่างเพื่อรองรับตรงจุดนี้ ส่วนค่าแรงเป็นปัจจัยลบ เพราะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ต้องใช้แรงงานฝีมือเป็นสำคัญ แต่ปัจจุบันก็จ่ายค่าแรงในอัตรา 250-300 บาท/วันอยู่แล้ว คงต้องรอดูความชัดเจนจากนโยบายรัฐบาลอีกครั้ง หากปรับขึ้นเฉพาะในกทม.ก็คงไม่มีผลกระทบ

นายธิปธวัช สุวรรณธำมรงค์ นักวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส มองว่า ในระยะ 3 ปีข้างหน้ากำไรของ SVI จะสามารถเติบโตในเชิงรุกได้เป็นผลจาก capacity ใหม่จากโรงงาน 3 ที่จะเข้ามาครบ 3 เฟส ยังมี room ให้โตได้ ในส่วนของดีมานด์ไปเจาะตลาดเพิ่มและกินส่วนแบ่งตลาดจากในกลุ่มสแกนดิเนเวียเพิ่มออร์เดอร์ยังหลั่งไหลเข้ามาได้

กรณีนโยบายขึ้นค่าแรงงาน ซึ่งคิดเป็นรายจ่าย 2-3% ของยอดขายรวมของ SVI ซึ่งปัจจุบันบริษัทจ่ายอยู่ในอัตรา 220-250 บาท/วัน หากปรับขึ้นไปเป็น 300 บาท/วัน ก็จะส่งผลให้ต้นทุนสูงขึ้น แต่แนวโน้ม SVI จะไปเจาะกลุ่มโปรดักส์ที่มี high margin จึงมองว่าผลกระทบในส่วนค่าแรงงานที่ปรับขึ้นจะไม่กดดันต่ออัตรากำไรขั้นต้นในระยะยาว

ส่วนแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/54 ใกล้ไตรมาส 1/54 แต่ไตรมาส 3/54 กำไรน่าจะปรับตัวดีขึ้นตามฤดูกาล

นายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) ให้ SVI เป็นหุ้น Top pick ในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ข้อดีเน้นผลิตสินค้ามีอัตรากำไรขั้นต้นสูง เช่น อุปกรณ์การแพทย์ industrial controls คาดปี 54 กำไรโต 36% ปี 55 โตอีก 19%

ส่วนการซื้อกิจการในยุโรปจะทราบผลไตรมาส 3/54 ต้องรอมูลค่าของกิจการที่จะซื้อเข้ามาว่าตั้งราคาแพงหรือไม่ โดยบริษัทที่จะซื้อจดทะเบียนในประเทศเดนมาร์ก ซึ่งผู้บริหารระบุว่าหากแพงเกินไปอาจไม่เหมาะสมที่จะเข้าไปซื้อ

ขณะที่คาดปันผลงวดปีนี้ 0.20 บาท/หุ้น Div yield สำหรับปี 54 ที่ 4% อยู่ในเกณฑ์ดี ฐานะการดำเนินงานดี มีฐานะเป็นเงินสดสุทธิ มีเงินสดมากกว่าหนี้

ด้านนักวิเคราะห์ บล.ทรีนิตี้ แนะ"ซื้อ SVI ในแง่ Organic growth เพียงอย่างเดียว(การดำเนินงานปกติ) คาดยอดขายปีนี้ 330 ล้านเหรียญฯ แต่ book ไว้แล้วล่วงหน้า 315 ล้านเหรียญฯ มีโอกาสที่จะปรับเป้าขึ้นมาอีก โดยแนวโน้มงวดไตรมาส 3/54 คาดว่าจะเติบโตสูงขึ้นจากขยายโรงงาน 3 เฟส 1 และเป็นช่วง high season ซึ่งกำลังผลิตราบรื่นดีรองรับดีมานด์ได้มากขึ้น

ในแง่ซื้อกิจการถ้าไตรมาส 3/54 สำเร็จเป็นบวกจะทำให้ยอดขายที่ตั้ง 1,000 ล้านเหรียญฯ ใน 5 ปี ก็อาจลดเวลาลง เพราะทำให้ฐานลูกค้าเข้ามาทันทีเป็นเท่าตัว การซื้อกิจการค่อนข้างถูกจังหวะเพราะเงินบาทแข็งและกิจการในยุโรปยังอ่อนแอ หากหลังจากซื้อแล้วเศรษฐกิจฟื้นตัวก็ถือว่าถูกจังหวะพอดี

"ถ้าเฉพาะ Organic growth ให้เป้าหมาย 6.05 บาท รวมซื้อกิจการ 8.60 บาท (ปีหน้า)"

ปัญหาเรื่องนโยบายค่าแรงงานของรัฐบาลชุดใหม่นั้น หากปรับขึ้นก็จะกระทบทำให้ต้นทุนสูงขึ้นระดับหนึ่ง อัตรากำไร(มาร์จิ้น)อาจชะลอแต่ก็จะกระทบทั้งอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และ SVI จ่ายค่าแรงสูงกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมอยู่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ