นายกลินท์ สารสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เทรดดิ้ง จำกัด ในเครือ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ามียอดขายสุทธิในปี 54 ที่ 3.5-3.8 หมื่นล้านบาท เติบโต 10% จากปีก่อน ซึ่งรายได้ของ เอสซีจี เทรดดิ้ง คิดเป็นสัดส่วน 10% ของรายได้รวมทั้งกลุ่ม SCC และตั้งเป้ายอดขาย(sale turnover)ที่ 5 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 18% จากปีก่อน และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 8 หมื่นล้านบาทภายในปี 58 หลังมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งจะทำให้ไม่มีกำแพงภาษีอีกต่อไป
ในช่วง 5 เดือนแรก บริษัทมียอด sale turnover จำนวน 1.9 หมื่นล้านบาท เติบโต 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดคือวัสดุก่อสร้างและถ่านหิน ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนาและขยายระบบเครือข่ายการบริหารจัดการช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้างในประเทศกัมพูชา ลาว พม่า เวียดนามและฟิลิปปินส์ รวมถึงการปรับปรุงระบบการซื้อมาขายไป เปลี่ยนเป็นการบริหารเครือข่ายอย่างจริงจัง รวมทั้งการวางแผนการซื้อขายล่วงหน้าและทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากความผันผวนของราคาสินค้าทั้งถ่านหินและค่าเงิน
สำหรับกลยุทธการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังจะเน้นการขยายธุรกิจใน 3 กลุ่มสินค้าหลัก คือ วัสดุก่อสร้าง พลังงาน และรีไซเคิล โดยกลุ่มวัสดุก่อสร้างจะเน้นการขยายเครือข่าย พร้อมพัฒนาช่องทางการขายสินค้าในประเทศให้ครอบคลุมมากขึ้น ส่วนกลุ่มพลังงานที่มีเพียงถ่านหิน จะมีการเพิ่มสินค้าพลังงานทดแทนอื่นมากขึ้น เช่น เชื้อเพลิงชีวมวล
และธุรกิจรีไซเคิล ได้มีการขยายการลงทุนโรงอัดเศษกระดาษเพื่อเป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกระดาษในฟิลิปปินส์เพิ่มอีก 2 แห่ง รวมเป็น 11 แห่ง และล่าสุดได้มีการร่วมมือกับพันธมิตรประเทศฟิลิปปินส์ทำธุรกิจแปรรูปขยะเป็นเชื้อเพลิง มูลค่าโครงการ 220 ล้านบาท
ทั้งนี้ในปี 55 บริษัทมีแผนเปิดสาขาใหม่ในต่างประเทศ 6 แห่ง ในประเทศนิวซีแลนด์ มาเลเซียฝั่งตะวันออก ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ยุโรปตะวันตก และแอฟริกาตะวันตก จากปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 36 แห่งใน 25 ประเทศ