ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 58.88 จุดหลังมูดีส์หั่นเครดิตไอร์แลนด์

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 13, 2011 06:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของไอร์แลนด์ลงสู่ระดับ "ขยะ" โดยระบุว่าสถานะการคลังที่อ่อนแออาจทำให้ไอร์แลนด์ต้องรับความช่วยเหลือครั้งใหม่จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้แรงหนุนจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า เฟดอาจจะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสาม (QE3) หากเศรษฐกิจขยายตัวช้าเกินไปจนไม่สามารถฉุดอัตราว่างงานให้ลดลงได้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 58.88 จุด หรือ 0.47% แตะที่ 12,446.88 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 5.85 จุด หรือ 0.44% แตะที่ 1,313.64 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดลบ 20.71 จุด หรือ 0.74% แตะที่ 2,781.91 จุด

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเรื่องการลุกลามของปัญหาหนี้ยุโรป โดยล่าสุดมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของไอร์แลนด์ลงสู่ระดับ Ba1 หรือระดับ "ขยะ" โดยระบุว่า ไอร์แลนด์อาจจะต้องขอรับความช่วยเหลือครั้งใหม่จากไอเอ็มเอฟ และสหภาพยุโรป (อียู) ก่อนที่ไอร์แลนด์จะสามารถกลับเข้าสู่ตลาดการเงินได้ ขณะที่มาตรการช่วยเหลือไอร์แลนด์ครั้งแรกของไอเอ็มเอฟและอียูจะหมดอายุลงในปี 2556

การประกาศลดความน่าเชื่อถือของไอร์แลนด์มีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่ปัญหาหนี้ยุโรปกำลังลุกลามจากกรีซไปยังยังประเทศอื่นๆในยูโรโซน รวมถึงอิตาลีและสเปน โดยเมื่อวานนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของอิตาลีและไอร์แลนด์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่คำนวณในดัชนี Nasdaq ร่วงลงหลังจากบริษัท โนเวลลัส และบริษัท ไมโครชิพ เทคโนโลยี เปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ เนื่องจากลูกค้าเริ่มระมัดระวังการใช้จ่าย ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้ตลาดเกิดความกังวลว่า แนวโน้มการขยายตัวของอุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์อาจชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ นอกจากนี้ ข่าวดังกล่าวยังฉุดหุ้นโนเวลลัส และหุ้นไมโครชิพ เทคโนโลยี ร่วงลงกว่า 10%

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เนื่องจากภาวะการซื้อขายโดยรวมได้แรงหนุนจากรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ที่ระบุว่า คณะกรรมการเฟดได้หารือกันเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการใช้มาตรการ QE3 หากเศรษฐกิจขยายตัวช้าเกินไปจนไม่สามารถฉุดอัตราว่างงานให้ลดลงได้

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังของ 17 ประเทศยุโรปออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า ยุโรปยังคงเปิดกว้างที่จะเข้าซื้อพันธบัตรของกรีซ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตการเงินในยุโรป และช่วยหนุนหุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเอ็มบีไอเอ อิงค์ พุ่งขึ้น 6.9%

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนพ.ค.พุ่งขึ้นกว่า 15.1% เนื่องจากราคาน้ำมันดิบสูงขึ้น

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนมิ.ย. และกระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนมิ.ย.

วันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.และตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ค. กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย. และธนาคารกลางสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนมิ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ