ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) ซึ่งเป็นการปิดลบติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรปที่ลุกลามเข้าสู่อิตาลี แต่ดัชนีปรับตัวลงในกรอบที่จำกัดหลังจากมีรายงานว่าธนาคารกลางยุโรปเข้าแทรกแซงตลาดด้วยการซื้อตราสารหนี้ของยูโรโซน
ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 60.20 จุด ปิดที่ 5868.96 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเป็นไปอย่างซบเซาเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรปที่กำลังลุกลามไปยังอิตาลี และประเทศอื่นๆในยูโรโซน หลังจากต้นทุนการประกันการผิดนัดชำระหนี้ของอิตาลีพุ่งขึ้นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด หลังจากมีรายงานว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ตัดสินใจแทรกแซงตลาดด้วยการเข้าซื้อตราสารหนี้ของประเทศยูโรโซนที่กำลังประสบปัญหาหนี้ ขณะที่นายวิลเยม บูเทอร์ อดีตคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารอังกฤษกล่าวว่า อีซีบีจะทบทวนโครงการซื้อพันธบัตรของรัฐบาลยูโรโซน เพื่อสนับสนุนการประมูลพันธบัตรของอิตาลีในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษลดลงสู่ระดับ 4.2% ในเดือนมิ.ย.
หุ้นโธมัส คุ๊ก ซึ่งเป็นบริษัททัวร์รายใหญ่อันดับ 2 ของยุโรป ดิ่งลง 28% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2554 ขณะที่หุ้นทียูไอ ทราเวล ร่วงลง 7.5% หุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดทเตด แอร์ไลน์ส กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินบริติช แอร์เวย์ ร่วงลง 2.3%
หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน และหุ้นริโอทินโต ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ของโลก ร่วงลง 1.4% และ 1.3% ตามลำดับ