ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ ขณะตลาดจับตาจีดีพีจีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 13, 2011 09:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นเช้านี้ ขณะที่ตลาดจับตารายงานข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลภายในประเทศของจีนที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ โดยนักลงทุนยังคงจับตาการควบคุมวิกฤตหนี้ยุโรป โดยหุ้นกลุ่มผู้ผลิตวัตถุดิบปรับตัวขึ้นเนื่องจากราคาน้ำมันและทองแดงดีดตัวขึ้น

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 9,891.11 จุด ลดลง 34.81 จุด ส่วนดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,794.37 จุด เพิ่มขึ้น 131.21 จุด ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเพิ่มขึ้น 0.05% แตะระดับ 2,756.03 จุด ขณะที่ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,480.26 จุด ลดลง 10.75 จุด ส่วนดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 2,117.12 จุด เพิ่มขึ้น 7.39 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,499.40 จุด เพิ่มขึ้น 4.00 จุด ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,578.65 จุด เพิ่มขึ้น 0.55 จุด และดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,085.30 จุด เพิ่มขึ้น 7.94 จุด

ดัชนี MSCI Asia Pacific บวก 0.3% แตะ 134.86 จุด เมื่อเวลา 10.03 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว

หุ้นโคมัตสึ พุ่ง 1.4% ในตลาดหุ้นโตเกียว ขณะที่หุ้นมิตซูบิชิ คอร์ป บวก 1.4% ในตลาดหุ้นโตเกียว ส่วนหุ้นนิวเครสท์ ไมนิ่ง บวก 1.7% หลังจากที่ราคาโลหะมีค่าดีดตัวขึ้นเป็นประวัติการณ์เรื่องจากวิกฤตหนี้ยุโรปทำให้นักลงทุนลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยงมากขึ้น

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้สาธารณะที่มีแนวโน้มว่าจะลุกลามจากกรีซไปยังอิตาลี หลังจากต้นทุนการประกันการผิดนัดชำระหนี้ของอิตาลีพุ่งขึ้นเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งสัญญาณการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสาม (QE3) ในรายงานการประชุมครั้งล่าสุดหรือไม่

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 13.10 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 1,562.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1554.6 - 1552.0 ดอลลาร์

นักวิเคราะห์กล่าวว่า หากมีข้อมูลบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงนั้น นักลงทุนก็จะขานรับกับสถานการณ์ดังกล่าว เนื่องจากจีนได้พยายามที่จะชะลอเศรษฐกิจลงนับตั้งแต่ที่จีนได้มีการใช้มาตรการคุมเข้มเมื่อปลายปีที่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ