บลจ.ไทยพาณิชย์ ออก 4 กองทุนระยะสั้น มูลค่า 2.3 หมื่นลบ.ผลตอบแทน 3-3.7%

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 13, 2011 14:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเสนอขายกองทุนพร้อมกัน 4 กองทุน มูลค่ารวม 23,000 ล้านบาท คาดให้ผลตอบแทน 3-3.70% ต่อปี ด้วยมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำแต่ละกองทุน 10,000 บาท ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 18 กรกฎาคม 2554

กองทุนที่เสนอขาย ประกอบด้วย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ในประเทศ 3M6 (SCB Local Fixed Income 3M6) อายุ 3 เดือน คาดผลตอบแทนประมาณ 3% ต่อปี มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย 56% ตั๋วแลกเงินธนาคารธนชาต และตั๋วแลกเงินธนาคารไทยพาณิชย์ ในสัดส่วน 22% เท่ากัน มีอันดับความน่าเชื่อถือ F1+ (Fitch) thai ,กองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรรัฐบาล 6M97(SCB Government Bond 6M97 Open End Fund) อายุ 6 เดือน คาดผลตอบแทนประมาณ 3% ต่อปี เน้นลงทุนในเน้นลงทุนในตั๋วเงินคลัง 99% ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ 6M26 (SCB Fixed Income Fund 6M26) อายุ 6 เดือน คาดผลตอบแทนประมาณ 3.40% ต่อปี มีนโยบายลงทุนใน พันธบัตรรัฐบาลไทย 22% พันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ 33% มีอันดับความน่าเชื่อถือ F1 (Fitch) เงินฝากธนาคาร Bank of China (BOC) สาขามาเก๊า 25% อันดับความน่าเชื่อถือ F1(Fitch) และเงินฝากธนาคาร China Construction Bank (CCB) 20% อันดับความน่าเชื่อถือ F1(Fitch) ซึ่งอัตราผลตอบแทนของกองทุนดังกล่าว ได้ทำการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) เรียบร้อยแล้ว

และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1Y7 (SCB Foreign Fixed Income Fund1Y7) อายุ 1 ปี คาดผลตอบแทนประมาณ 3.70% ต่อปี มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ คือ พันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ มีอันดับความน่าเชื่อถือ A+(Fitch) 55% เงินฝากธนาคาร Bank of China สาขามาเก๊า อันดับความน่าเชื่อถือ A (Fitch) 25% เงินฝากธนาคาร Union National Bank อันความน่าเชื่อถือ A+ (Fitch) สัดส่วน 20% พร้อมปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) เรียบร้อยแล้ว

นางโชติกา กล่าวอีกว่า ทิศทางการลงทุนตราสารหนี้ในช่วงครึ่งปีหลังยังคงเป็นการลงทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงของราคาที่มีความผันผวนไปตามทิศทางของอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากตลาดอยู่ในภาวะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดการณ์ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับนโยบายขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง คือ 0.25-0.50% ในการประชุมในเดือนกรกฎาคม และสิงหาคมนี้ โดยอัตราดอกเบี้ยน่าจะอยู่ที่ระดับ 3.50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.00% โดยปัจจัยหลักในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยคือความกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย

ดังนั้น บริษัทฯ จึงยังคงนโยบายออกกองทุนระยะสั้น 3 เดือน ถึง 1 ปีอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในตลาด โดยการจัดสินทรัพย์การลงทุนที่ผสมระหว่างพันธบัตรรัฐบาลและสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศในสัดส่วนที่เหมาะสม ตลอดจนการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ