ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.ค.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดพร้อมที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงมาตรการ QE3 หากเศรษฐกิจเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน
ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 37.47 จุด แตะที่ 5906.43 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้แรงหนุนจากการที่ประธานเฟดส่งสัญญาณว่าอาจจะใช้มาตรการ QE3 หากเศรษฐกิจอ่อนแอนานเกินไปและมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้ปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน รวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ปี 2554 ที่ขยายตัว 9.5% และผลผลิตมูลค่าเพิ่มภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 14.3%
อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ปิดบวกไม่มากนัก เนื่องจากดัชนีถอยร่นลงจากระดับสูงสุดในระหว่างวัน หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 24,500 ราย จากเดือนพ.ค. แตะระดับ 1.52 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2553 สะท้อนให้เห็นว่าอังกฤษยังคงต้องใช้ความพยายามอย่างหนักต่อไปในการสร้างงานให้เพียงพอ เพื่อชดเชยกับการลดงบประมาณครั้งใหญ่สุดของรัฐบาลนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นตามราคาโลหะในตลาดโลก โดยหุ้นเฟรสนิลโล ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองโลหะเงินรายใหญ่ของโลก พุ่งขึ้น 5.6% หุ้นคาซัคมิส ปิดบวก 4% และหุ้นแรนโกลด์ ซีซอสเซส ปิดบวก 4.3%
หุ้นเบอเบอร์รีปิดบวก 6.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้เพิ่มขึ้น 30% ในไตรมาส 2 หุ้นบริติช สกาย บรอดคาสติง กรุ๊ป (บีสกายบี) ปิดบวก 2% หลังจากมีรายงานว่า นิวส์ คอร์ป ประกาศถอนข้อเสนอซื้อหุ้น 61% ในบีสกายบี