นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บมจ. ฐิติกร(TK)คาดว่า ในปี 54 นี้ ธุรกิจเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ คือโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปี 53 แม้มติของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% มาเป็น 3.25% บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นอย่างมากว่าจะไม่กระทบต่อผลประกอบการของบริษัทฯ
การขยับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้จะมีผลน้อยมากกับบริษัททั้งในระยะสั้นและระยะยาว ในส่วนของการขยายธุรกิจ บริษัทยังมีวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงินที่ยังไม่ได้ใช้กว่า 2,800 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการเติบโตของบริษัทของบริษัท
"เราจะยังคงรักษาอัตรานี้ต่อไปเพราะตลาดรถมอเตอร์ไซด์นั้นยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเราเองก็มีความเชี่ยวชาญการให้สินเชื่อตลาดรถจักรยานยนต์ ซึ่งให้อัตราผลตอบแทนที่ดีกว่า ตลอดจนเราเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดมากกว่า 25 ปี ทำให้เราสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าสภาพตลาดรถจักรยานยนต์จะเป็นอย่างไร ซึ่งในปีนี้จะเป็นปีที่ดีที่สุดของเราในการสร้างผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่องและมั่นคงต่อไป" นางสาวปฐมา กล่าว
ปัจจุบัน TK มีพอร์ตสินเชื่อประมาณ 8,000 ล้านบาท โดยประมาณ 80% เป็นพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ส่วนที่เหลือเป็นพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์
นางสาวปฐมา กล่าวว่า ภายใต้นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย น่าจะส่งผลดีต่อกำลังซื้อของประชาชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของบริษัท เป็นผลดีแก่บริษัทไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการให้สินเชื่อและในส่วนของคุณภาพลูกหนี้ แต่ทั้งนี้บริษัทก็จะยังคงเน้นการพิจารณาสินเชื่ออย่างเข้มข้นต่อไปด้วยความระมัดระวังบนฐานข้อมูลลูกค้าที่บริษัทมีอยู่ในมือมากขึ้น
นายประพล พรประภา รองกรรมการผู้จัดการ TK กล่าวว่าตลาดรถจักรยานยนต์ในปี 54 จะยังคงเติบโตต่อไป โดยคาดว่าปีนี้ขนาดตลาดรถจักรยานยนต์น่าจะทะลุระดับ 2 ล้านคัน เติบโตจาก 1.8 ล้านคันเมื่อปีที่แล้ว หรือประมาณ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์
ในส่วนของ TK คาดว่าการให้สินเชื่อรถจักรยานยนต์ คงจะทำได้ดีกว่าการขยายตัวของตลาด ซึ่งบริษัทคาดว่าจะทำได้ 20-25% หรือประมาณ 2 เท่าของตลาดปกติ