นายวิทูรย์ สุริยวนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สยามโกลบอลเฮ้าส์(GLOBAL) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่าราคาหุ้น GLOBAL ที่ปรับขึ้นมาในช่วงนี้น่าจะมาจากการคาดการณ์รายได้ไตรมาส 2/54 ของบริษัทว่าจะเติบโต 35-40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงกว่าเป้าทั้งปีที่ตั้งไว้ว่ารายได้จะเติบโต 25-30% ขณะที่กำไรก็น่าจะโตทิศทางเดียวกัน
และหากเทียบไตรมาส 1/54 ทั้งรายได้และกำไรก็น่าจะทำได้สูงกว่าเช่นกัน ทั้งการเติบโตของรายได้จากสาขาเดิมและสาขาใหม่ โดยไตรมาส 1/54 บริษัทมีรายได้ 2 พันล้านบาท กำไร 107 ล้านบาท
นอกจากนั้น แนวโน้มครึ่งปีหลังรายได้ยังน่าจะเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยบริษัทจะเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 2-3 สาขา คือที่ จ.นครราชสีมา ในเดือนส.ค.-ก.ย.54 และอีก 2 สาขาจะเปิดในไตรมาส 4/54 เมื่อถึงสิ้นปี 54 บริษัทจะมีสาขาเพิ่มเป็น 15-16 สาขา ซึ่งใช้งบลงทุนเปิดแต่ละสาขาที่ 100-150 ล้านบาทไม่รวมค่าที่ดิน แต่ตอนนี้มีที่ดินแล้วทั้ง 2 แห่ง
"แนวโน้มครึ่งปีหลังปกติไม่ดีกว่าครึ่งแรกแต่ปีนี้จะมีสาขาที่เปิดเพิ่มขึ้นมาอีก 2-3 สาขา ก็น่าจะชดเชยในส่วนที่ low ได้"นายวิฑูรย์ กล่าว
นายวิฑูรย์ กล่าววา ปีนี้มั่นใจว่ารายได้น่าจะเป็นไปตามเป้าเติบโต 25-30% จากปีก่อนที่ 5.97 พันล้านบาท มาอยู่ที่ 7-8 พันล้านบาท เพราะครึ่งปีแรกก็ทำรายได้เกินครึ่งของปีก่อนแล้ว เชื่อว่าทั้งปีก็น่าจะได้ตามเป้าหรือเกินเป้า ขณะที่กำไรของธุรกิจค้าปลีกจะโตตามรายได้ ถ้ารายได้โตเม็ดเงินกำไรก็จะโตตาม
แผนงานในปีหน้าบริษัทคาดว่าจะเปิดใหม่อีก 3-5 สาขา หรืออาจจะมากกว่านั้นแล้วแต่จังหวะและโอกาส ส่วนการเปิดสาขาที่เมืองทองธานีนั้นคาดว่าจะสรุปได้ในไตรมาส 3/54 นี้ หรือภายในปีนี้ แต่ไม่ได้รีบเร่งเนื่องจากยอดขายในต่างจังหวัดยังเติบโตได้ดีอยู่
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า บริษัทยังเชื่อว่าจะได้รับผลดีจากนโยบายของรัฐบาลใหม่ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ เพราะจะมีการผลักดันนโยบายสนับสนุนสินเชื่อที่อยู่อาศัย 0% 5 ปี ปรับเปลี่ยนมาใช้นโยบายรับจำนำข้าวที่จะเพิ่มเงินรายได้ให้เกษตรกร และปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
ทั้งนี้ ในแง่บวกการสนับสนุนสินเชื่อบ้านก็จะทำให้คนอยากมีบ้านมากขึ้น ขณะเดียวกันราคาบ้านก็จะแพงขึ้นจากต้นทุนวัสดุก่อสร้างและค่าแรงที่ปรับขึ้น หากมีคนสร้างบ้านมากขึ้น ปริมาณการใช้วัสดุก่อสร้างก็จะมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อเราโดยตรง รวมทั้งเมกะโปรเจกต์ต่างๆที่จะเกิดขึ้น ขณะที่ค่าแรงที่อาจปรับขึ้นไม่น่าจะกระทบกับบริษัทมาก เพราะจ่ายในอัตราใกล้เคียงอยู่แล้ว "ค้าปลีกต่างจังหวัดดีโดยลำดับ ถ้ารัฐบาลใหม่ออกนโยบายตามนี้จริงก็น่าจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้แรงพอควรแต่กังวลเรื่องเดียวเงินเฟ้อ"นายวิฑูรย์ กล่าว