ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) หลังจากที่มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับสูงสุดที่ AAA ประกอบกับความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยูโรโซนที่ยังคงดำเนินอยู่
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 59.48 จุด หรือ 1.01% แตะที่ 5,846.95 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ได้ประกาศทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับสูงสุดที่ AAA โดยระบุว่ามูดีส์อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ เนื่องจากมีความเป็นไปได้มากขึ้นว่า รัฐสภาสหรัฐจะไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางได้ทันกำหนดเส้นตายวันที่ 4 ส.ค.นี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
ด้านสถานการณ์หนี้ยุโรปก็ยังคงสร้างความหวั่นวิตกให้กับนักลงทุนต่อไป โดยพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีร่วงลง ขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวสูงขึ้นในการประมูลตราสารหนี้ ขณะเดียวกันหน่วยงานกำกับดูแลของยุโรปกำลังหาทางระงับความกังวลของนักลงทุนที่ว่าธนาคารพาณิชย์ในภูมิภาคมีผลการประเมินไม่ดีนักในการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) รอบสอง ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์
วานนี้ วุฒิสภาอิตาลีมีมติด้วยคะแนน 161 ต่อ 135 เสียง อนุมัติแผนงบประมาณรัดเข็มขัดซึ่งมีเป้าหมายเพื่อปรับลดหนี้สาธารณะและรักษาสถานะการคลัง รวมทั้งสร้างความมั่นใจให้กับตลาดโลกในช่วงเวลาที่วิกฤตหนี้กำลังปกคลุมยุโรป
ขณะที่ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงอีก 3 ขั้น จากระดับ B+ สู่ระดับ CCC หรือ "ระดับขยะ" ซึ่งสูงกว่าระดับที่ถูกประเมินว่า "ผิดนัดชำระหนี้" อยู่เพียงขั้นเดียว และเป็นระดับต่ำสุดในบรรดาทุกประเทศในโลก โดยฟิทช์เตือนว่าอาจจะพิจารณาว่าธุรกรรมการซื้อพันธบัตรชุดใหม่ของรัฐบาลกรีซเมื่อพันธบัตรชุดปัจจุบันครบกำหนดไถ่ถอน หรือการทำ rollover นั้น เป็นการผิดนัดชำระหนี้
หุ้นเดลี เมล์ แอนด์ เจเนอรัล ทรัสต์ ร่วง 4.1% หลังจากที่บริษัทประกาศขึ้นราคาหนังสือพิมพ์ เดลี่ เมล์ 5 เพนซ์ พร้อมทั้งเผยว่า รายได้จากโฆษณาได้ปรับตัวลดลง
หุ้นอินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเทลส์ กรุ๊ป หรือไอเอชจี ร่วง 3.2% หลังจากที่คู่แข่งในสหรัฐอย่าง แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ คาดการณ์ผลกำไรที่ต่ำกว่าการประเมินของนักวิเคราะห์ ส่วนปิโตรแฟค บริษัทวิศวกรรมน้ำมันและก๊าซ ร่วง 3.8% หลังถูกบาร์เคลย์สลดอันดับหุ้น
บีเอชพี บิลลิตัน บริษัทเหมืองรายใหญ่สุดของโลก ลบ 2.3% หลังจากที่ราคาโลหะตั้งแต่ทองแดงไปจนถึงอลูมิเนียมปรับตัวลดลงในตลาดลอนดอน ส่วนริโอ ทินโต กรุ๊ป ลบ 1.2%
อย่างไรก็ดี หุ้นเฟรสนิลโล ผู้ผลิตโลหะเงินรายใหญ่สุดของโลก พุ่งขึ้นแรงสุดที่ 4.9% หลังจากที่บริษัทรายงานว่า ผลผลิตเงินพุ่งขึ้นถึง 7.2% ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสสอง ขณะที่ราคาโลหะเงินทะยานกว่า 7% ในช่วงสามวันที่ผ่านมา