นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างการมองหาซื้อเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียอีกหลายแห่ง หลังจากตกลงเข้าซื้อกิจการแล้ว 1 แห่งมูลค่า 1.2 พันล้านบาท โดยส่วนใหญ่อยู่ในขั้นตอนการเจรจาเงื่อนไขต่างๆ หากมีข้อสรุปลงตัวก็น่าจะเจรจาในเชิงลึกต่อไปได้ โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะมีเหมืองถ่านหินเพิ่มปีละ 1 แห่ง ให้สอดคล้องกับจำนวนลูกค้าต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น
ขณะนี้บริษัทมียอดขายจากลูกค้าต่างประเทศรายใหญ่ 3 ราย และอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าต่างประเทศอีก 7-8 ราย ซึ่งจะมีคำสั่งซื้อขั้นต่ำที่ 1 ล้านตัน/ปี/ราย ซึ่งจะผลักดันยอดขายเติบโตก้าวกระโดดในปีหน้า
"ในปี 55 น่าจะเป็นปีที่เราโตก้าวกระโดดได้ เพราะมีลูกค้าที่อยู่ระหว่างเจรจาอีกหลายราย และหลังจากเรามีเหมืองที่อินโดฯแล้ว จะทำให้เรามีต้นทุนที่ fix จากปัจจุบนต้นทุนยังเป็นลักษณะ trading"นายขจรพงศ์ กล่าว
นายขจรพงศ์ กล่าวว่า บริษัทยังคงเป้ายอดขายถ่านหินในปี 54 ที่ 1.2 ล้านตัน เป็นการเติบโตประมาณ 50% จากปีก่อน โดยไตรมาส 2/54 น่าจะมียอดขายเพิ่มจากไตรมาส 1/54 ที่มียอดขาย 3 แสนตัน เนื่องจากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีคำสั่งซื้อจากลูกค้ารวมแล้ว 8 ล้านตัน ทยอยส่งมอบภายใน 4 ปี
ทั้งนี้ ราคาขายถ่านหินในปัจจุบันปรับสูงขึ้นต่อเนื่องทุกเดือน แต่เนื่องจากบริษัทดำเนินธุรกิจเป็นผู้จัดจำหน่าย (trading) ทำให้การทำกำไรไม่ได้มาก เนื่องจากต้นทุนผันผวนตามตลาด หลังการที่บริษัทเข้าซื้อหุ้นเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซีย ซึ่งต้องรอการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในเดือน ส.ค.54 ก็จะทำให้บริษัทมี supply และมีต้นทุนคงที่มากขึ้น