นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด คาดว่า ราคาทองคำยังคงสามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ โดยในสัปดาห์นี้ราคาทองยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านต่อไปที่ 1,610 ดอลลาร์/ออนซ์ และ 1,635 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ 22,920 และ 23,280 บาท/บาททอง
จากสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำตลาดโลกยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ โดยอยู่ที่ 1593.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ในขณะที่ราคาทองคำในประเทศได้ขยับเพิ่มขึ้น 550 บาท/บาททอง สู่ระดับ 22,500/22,600 บาท/บาททอง พร้อมทำสถิติสูงสุดใหม่เช่นกัน
เนื่องจากความกังวลที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจโลก ทั้งในเรื่องความชัดเจนในประเด็นปัญหาเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐยังคงไม่สามารถหาข้อยุติได้ ในขณะที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำได้ออกมาให้มุมมองเชิงลบมากขึ้น โดยคาดการณ์ว่าสหรัฐฯอาจมีแนวโน้มที่จะผิดนัดชำระหนี้ และสถาบันจัดอันดับชั้นนำทั้ง ฟิทซ์ เรทติ้งส์,มูดี้ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ ต่างเห็นตรงกันว่าการเพิ่มเพดานหนี้ และการหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ไม่ได้แก้ปัญหายอดขาดดุลการคลังในระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐ ทำให้สถาบันจัดอันดับชั้นนำมีการทบทวนปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ
อีกทั้งการออกมายอมรับของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ว่าเฟดพร้อมที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากที่มาตรการ QE2 ไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ(อัตราการว่างงานอยู่ในระดับสูงถึง 9.2%) สร้างความกังวลครั้งใหญ่ให้กับนักลงทุนจนนำมาสู่การเข้าถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
นอกจากปัญหาหนี้สาธารณะของยุโรปก็รุนแรงไม่แพ้กัน เมื่อสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือต่างออกมาหั่นเครดิตประเทศในยุโรป ยิ่งช่วยหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปอีก
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้ นางสาวฐิภา กล่าวว่า นักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีแรงขายทำกำไรออกมามากนัก โดยนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง
สำหรับการทำกำไร ให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไรระยะสั้น โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,580 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ 22,490 บาท/บาททอง โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,565 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ 22,275 บาท/บาททอง