นายพิชญพงศ์ ณ บางช้าง กรรมการบริหาร บมจ. เอ็มดีเอ็กซ์ (MDX) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างรอการตัดสินใจของลูกค้าจากประเทศจีน 2 รายเพื่อซื้อที่ดินภายในนิคมอุตสาหกรรมเก็ตเวย์ซิตี้ จ.ฉะเชิงเทรา จำนวนรวม 200 ไร่ คาดว่าจะมีข้อสรุปภายใน 1-2 เดือนข้างหน้า
หากได้ลูกค้า 2 รายดังกล่าว รวมกับลูกค้าจากญี่ปุ่นที่ได้ตกลงซื้อที่ดินแล้ว 100 ไร่ มูลค่า 200 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/54 จะส่งผลต่อยอดขายที่ดินปีนี้ให้เพิ่มขึ้นจากเป้าหมาย ปัจจุบัน บริษัทเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดินไปแล้ว รวม 120-130 ไร่ แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเป้ายอดขายที่ดิน 70 ไร่ในปีนี้ไว้ก่อน เนื่องจากการปรับมาตรฐานบัญชีใหม่จะรับรู้เป็นรายได้เมื่อมีการโอนที่ดินแล้ว
"ธุรกิจการขายที่ดินในนิคมฯเริ่มดีขึ้น ซึ่งเรานิ่งไปนาน ลูกค้าที่เรามีอยู่ในมือตอนนี้ รายใหญ่เป็นลูกค้าจากจีน 2 ราย แต่เรายังมีรายเล็กๆ ซึ่งจะทำให้ยอดขายที่ดินปีนี้น่าจะดี แต่ยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 470 ล้านบาท และมองว่า ในไตรมาส 2/54 รายได้และกำไรจะดีกว่าไตรมาส 1/54 แน่นอน"นายพิชญพงศ์ กล่าว
แม้ว่ารายได้หลักของบริษัทสัดส่วน 60% มาจากธุรกิจไฟฟ้า แต่บริษัทก็ไม่มีแผนหยุดการดำเนินธุรกิจขายที่ดินนิคมอุตสาหกรรม อีกทั้งอัตรากำไร(มาร์จิ้น)ในธุรกิจไฟฟ้าจะดีกว่า และบริษัทเป็น บจ.ในหมวดพลังงาน เนื่องจากมองว่าธุรกิจขายที่ดินยังดีต่อเนื่อง ถึงจะไม่หวือหวาก็ตาม ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีที่ดินพร้อมขายจำนวน 600 ไร่ และมีที่ดินเปล่ารอการพัฒนาอีก 1,000 ไร่ คาดว่าจะพัฒนาในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
ส่วนธุรกิจไฟฟ้า บริษัทคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ที่ 60% และจะเพิ่มเป็น 80% ในปี 55-56 เนื่องจากบริษัทจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าน้ำเทินหินบูน ส่วนขยาย 290 เมกะวัตต์ ในไตรมาส 3/55 และจะรับรู้รายได้เต็มปีในปี 56 ปัจจุบัน กำลังการผลิตไฟฟ้ารวมของบริษัทมาจากโรงไฟฟ้าน้ำเทินหินบูน 210 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าบางบ่อ 350 เมกะวัตต์