ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกหนี้ยุโรป,สหรัฐ ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 94.57 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 19, 2011 06:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าวิกฤตหนี้ยุโรปอาจจะส่งผลกระทบต่อภาคธนาคาร หลังจากผลการทบสอบภาวะวิกฤต (stress test) ระบุว่า ธนาคารของกรีซและสเปนมีความเสี่ยงมากที่สุด นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลว่าหากรัฐสภาสหรัฐไม่อนุมัติการเพิ่มเพดานหนี้สิน ก็จะส่งผลให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ และการที่โกลด์แมน แซคส์ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ก็ยิ่งสร้างแรงกดดันให้กับตลาดมากขึ้นด้วย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 94.57 จุด หรือ 0.76% แตะที่ 12,385.16 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 10.70 จุด หรือ 0.81% แตะที่ 1,305.44 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดลบ 24.69 จุด หรือ 0.89% แตะที่ 2,765.11 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 3.7 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 5 ต่อ 1

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนยังคงกังวลว่าปัญหาหนี้สาธารณะอาจลุกลามไปยังภาคธนาคารในยุโรป แม้ผลการทดสอบภาวะวิกฤตเมื่อสัปดาห์ที่แล้วบ่งชี้ว่า มีธนาคารเพียง 8 แห่งจากทั้งหมด 90 แห่งที่ผ่านการทดสอบก็ตาม ทั้งนี้ก็เพราะผลการทดสอบระบุว่า ธนาคารที่ไม่ผ่านการทดสอบในครั้งนี้มีการดำรงเงินกองทุนขั้นที่หนึ่งน้อยกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ 5%

ทั้งนี้ ธนาคารที่มีความเสี่ยงได้แก่ ธนาคาร Bankinter และธนาคาร Sabadell ของสเปน ธนาคาร Banco Popolare ของอิตาลี ธนาคาร Piraeus และธนาคาร ATEbank ของกรีซ ธนาคาร Marfin Popular และธนาคาร Bank of Cyprus ของไซปรัส ธนาคาร Bank of Ireland และธนาคาร Allied Irish Banks ของไอร์แลนด์

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า สหรัฐอาจเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้หากรัฐสภาไม่อนุมัติการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางได้ทันกำหนดเส้นตายในวันที่ 2 ส.ค.นี้ ขณะที่กระทรวงการคลังสหรัฐเตือนว่า หากไม่มีการปรับเพิ่มเพดานหนี้ในวันดังกล่าว สหรัฐจะต้องกลายเป็นประเทศที่ผิดนัดชำระหนี้ และจะสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อตลาดการเงินทั่วโลก

สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) เตือนว่ามีโอกาส 50% ที่อันดับความเชื่อถือของสหรัฐจะถูกปรับลดจากระดับสูงสุดที่ AAA ในช่วงสามเดือนจากนี้ หากรัฐสภาสหรัฐยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลได้ นอกจากนี้ เอสแอนด์พีประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบแก่อันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวและระยะสั้นของสหรัฐ และระบุว่าอาจลดอันดับเครดิตหนึ่งขั้นหากยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงเรื่องเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐในเร็วๆนี้

เอสแอนด์พีระบุว่า การให้เครดิตพินิจดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณว่าทางสถาบันมีมุมมองว่า การอภิปรายโต้แย้งทางการเมืองเกี่ยวกับจุดยืนทางการคลังและประเด็นเพดานหนี้ที่เกี่ยวข้อง ยิ่งทำให้ปัญหายุ่งเหยิงมากขึ้น

ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐลงสู่ระดับ 1.5% ในไตรมาส 2 จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2% และยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ลงสู่ระดับ 2.5% จากเดิม 3.25% เนื่องจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคการผลิตถดถอยลง

วิกฤตหนี้ยุโรปได้ฉุดหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงหนักสุด โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลง 2.8% ส่วนหุ้นฮัลลิเบอร์ตันปิดทรงตัว หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 2 ขณะที่หุ้นนิวส์ คอร์ป ร่วงลง 4.3% หลังจากมีรายงานว่า รีเบคกา บรู๊คส์ อดีตผู้บริหารฝ่ายธุรกิจหนังสือพิมพ์ในประเทศอังกฤษของนิวส์ คอร์ป ถูกจับกุมตัวในข้อหามีส่วนรู้เห็นกับกรณีนักข่าวนิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์ดักฟังโทรศัพท์

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมิ.ย. วันพุธ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย.

วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนมิ.ย., ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียจะเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนก.ค. ส่นวันศุกร์ ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ