ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) เนื่องจากผลการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ไม่ได้ช่วยคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของปัญหาหนี้ยุโรป โดยดัชนี Stoxx 600 ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในนรอบ 7 เดือน และได้ร่วงลงไปแล้วเกือบ 10% นับตั้งแต่ต้นปี 2554
ดัชนี Stoxx 600 ดิ่งลง 1.8% ปิดที่ 262.1 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ดัชนี FTSEurofirst 300 กลุ่มบลูชิพในตลาดหุ้นยุโรปร่วงลง 18.94 จุด หรือ 1.74% ปิดที่ 1,067.96 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3650.71 จุด ร่วงลง 75.88 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 7107.92 จุด ร่วงลง 112.20 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5752.81 จุด ร่วงลง 90.85 จุด
สำนักงานการธนาคารยุโรป (EBA) เปิดเผยหลังจากตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการเมื่อวันศุกร์ว่า มีธนาคารเพียง 8 แห่งในยุโรปที่ไม่ผ่านการทดสอบ จากจำนวนธนาคารทั้งหมด 90 แห่งที่เข้ารับการทดสอบ แต่ข่าวดังกล่าวไม่ได้ช่วยให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของปัญหาหนี้ยุโรปได้ เนื่องจากธนาคารที่ไม่ผ่านการทดสอบเหล่านี้มีการดำรงเงินกองทุนขั้นที่ 1 น้อยกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ 5%
ทั้งนี้ ธนาคารที่มีความเสี่ยงได้แก่ ธนาคาร Bankinter และธนาคาร Sabadell ของสเปน ธนาคาร Banco Popolare ของอิตาลี ธนาคาร Piraeus และธนาคาร ATEbank ของกรีซ ธนาคาร Marfin Popular และธนาคาร Bank of Cyprus ของไซปรัส ธนาคาร Bank of Ireland และธนาคาร Allied Irish Banks ของไอร์แลนด์
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นดอยช์ แบงก์ ธนาคารรายใหญ่สุดของเยอรมนี ร่วงลง 3.5% หุ้นยูนิเครดิต เอสพีเอ ธนาคารรายใหญ่ของอิตาลีร่วงลง 6.4% หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ของอังกฤษ ร่วงลง 7% และหุ้นธนาคารบังโค คอมเมอร์เชียล โปรตุเกส เอสเอ ดิ่งลง 7.6%
หุ้นพาร์มาลัท เอสพีเอ ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจอาหารของอิตาลี ดิ่งลง 7.2% หลังจากมีข่าวว่าบริษัทเตรียมปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการปี 2554
ห้นแอทลาส ค็อปโค ผู้ผลิตแอร์คอมเพรสเซอร์รายใหญ่ของโลก ดิ่งลง 8.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 เพียง 2.98 พันล้านโครเนอร์ (450 ล้านดอลลาร์) น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.2 พันล้านโครเนอร์
นักลงทุนจับตาดูการประชุมฉุกเฉินของผู้นำกลุ่มยูโรโซนในวันพฤหัสบดีที่ 21 ก.ค.นี้ โดยวาระการประชุมหลักๆคือการหาแนวทางรับมือกับวิกฤตหนี้ รวมทั้งประเมินเสถียรภาพด้านการเงินของยูโรโซน และการให้ความช่วยเหลือกรีซครั้งใหม่
นักวิเคราะห์กล่าวว่า หากผลการประชุมฉุกเฉินในวันที่ 21 ก.ค.นี้ไม่มีความคืบหน้า ก็อาจทำให้ตลาดการเงินทั่วโลกวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรปมากขึ้น