นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย (TMB) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2/54 ส่วนต่างดอกเบี้ยรับ (NIM) เพิ่มขึ้นเป็น 2.45% จาก 2.21% ในไตรมาส 1/54 และในขณะเดียวกันรายได้ค่าธรรมเนียมก็เติบโตอย่างต่อเนื่องหรือเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/54 และ 16% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/53
สำหรับสินเชื่อคุณภาพเติบโตเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่แล้ว การเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากทั้งสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ สินเชื่อเอสเอ็มอี และสินเชื่อรายย่อย ส่วนคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารพัฒนาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพลดลง 1,927 ล้านบาท เหลือ 30,022 ล้านบาท ในขณะที่สัดส่วน NPL ของธนาคารลดลงเหลือ 6.0% เมื่อเทียบกับ 6.96% ณ สิ้นไตรมาสที่แล้ว และ 7.7% เทียบกับเมื่อสิ้นปี 53
ส่วนสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ของธนาคารและบริษัทย่อยลดลงเหลือ 6.5% เทียบกับ 7.5% ณ สิ้นไตรมาสที่แล้ว และ 8.3% เมื่อสิ้นปี 53 ซึ่งพัฒนาการที่ดีขึ้นนี้ เป็นไปตามเป้าหมายของธนาคาร แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงมุ่งมั่นดำเนินการตามแผนที่จะปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์และสัดส่วน NPL ให้ยิ่งขึ้นต่อไป
นอกจากนี้ ธนาคารยังมีเงินฝากเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่แล้ว อันเป็นผลเนื่องมาจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากที่มอบประโยชน์โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าที่ไม่เคยได้รับมาก่อน ซึ่งได้แก่ผลิตภัณฑ์“ทีเอ็มบีเงินฝากไม่ประจำ ดอกเบี้ยสูง"ที่ทำให้ลูกค้าได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการออมเงิน และมีความยืดหยุ่นในการถอนเงินออกไปใช้ โดยที่ไม่ต้องฝากประจำ และไม่เสียสิทธิด้านอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่กำลังเป็นที่นิยมของลูกค้าอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งการปรับปรุงช่องทางการบริการซึ่งทำให้ลูกค้าเข้าถึงบริการของธนาคารได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ ธนาคารมีสถานการเงินที่แข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/54 มีระดับความเพียงพอของเงินกองทุนอยู่ที่ 16.8% ซึ่งเป็นกองทุนชั้นที่ 1 ในสัดส่วน 11.6%
นายบุญทักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในครึ่งหลังของปี 54 นี้ ธนาคารยังคงมุ่งเน้นในการสร้างความเติบโตอย่างมีคุณภาพ และนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุด เพื่อส่งเสริมให้ลูกค้ามีคุณภาพชีวิตและได้รับบริการทางการเงินที่ดีขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่านมา ส่งเสริมและสนับสนุนให้ลูกค้าทุกกลุ่มบรรลุเป้าหมายทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งยกระดับคุณภาพการบริการและพัฒนาเครือข่ายช่องทางการบริการ ทั้งสาขา เอทีเอ็ม และออนไลน์ อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกค้าทุกกลุ่มได้รับความสะดวกในการเข้าถึงบริการ รวมทั้งสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าในการใช้บริการและผลิตภัณฑ์ของธนาคาร
อนึ่ง ผลประกอบการในไตรมาส 2/54 มีกำไรสุทธิ 1,195 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/54 และเพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/53 ทำให้ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ รวม 2,294.79 ล้านบาท สำหรับงวดครึ่งปีแรก 54