ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์พุ่ง 202.26 จุดรับข้อมูลศก.-ผลประกอบการเอกชน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 20, 2011 06:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน รวมถึงอินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีนส์ (IBM) และโคคา-โคลา นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากตัวเลขสร้างบ้านที่พุ่งขึ้นเกินคาดในสหรัฐ และข่าวที่ว่าวุฒิสมาชิก 6 คนของสหรัฐได้ให้การสนับสนุนแผนการลดยอดขาดดุลที่เสนอโดยประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดว่ารัฐสภาสหรัฐอาจจะให้ความเห็นชอบในเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐในไม่ช้านี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ทะยานขึ้น 202.26 จุด หรือ 1.63% ปิดที่ 12,587.42 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 21.29 จุด หรือ 1.63% ปิดที่ 1,326.73 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 61.41 จุด หรือ 2.22% ปิดที่ 2,826.52 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 3.9 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 4 ต่อ 1

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นเกือบ 1.7% ขานรับผลประกอบการของบริษัทเอกชน โดย IBM รายงานว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 อยู่ที่ระดับ 2.9 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.31 ดอลลาร์ต่อหุ้น ส่วนรายได้สุทธิไตรมาส 2 อยู่ที่ 2.46 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้

ขณะที่โคคา-โคลา ผู้ผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่ระดับโลกรายงานว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 อยู่ที่ระดับ 1.17 ดอลลาร์ต่อหุ้น มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 1.16 ดอลลาร์ต่อหุ้น ด้านจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน รายงานว่า กำไรไตรมาส 2 อยู่ที่ 1.28 ดอลลาร์ต่อหุ้น มากกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1.24 ดอลลาร์ต่อหุ้น และมากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ 1.21 ดอลลาร์ต่อหุ้น

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนเพิ่มขึ้นเมื่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนมิ.ย.อยู่ที่ระดับ 629,000 ยูนิตต่อปี พุ่งขึ้น 14.6% จากเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว ขณะที่ตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 624,000 ยูนิตต่อปี เพิ่มขึ้น 6.7% จากเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าภาคอสังหาริมทรัพย์อาจจะฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอย และจะกลับมาเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐได้เหมือนเมื่อก่อน

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า วุฒิสมาชิก 6 คนของสหรัฐให้การสนับสนุนแผนของโอบามาในการลดงบประมาณการใช้จ่าย 3.7 ล้านล้านดอลลาร์ในอีก 10 ปีข้างหน้า และการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐซึ่งปัจจุบันยืนอยู่ที่ระดับ 14.29 ล้านล้านดอลลาร์

ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างส.ส.พรรครีพับลิกันและเดโมแครทเกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐได้สร้างความวิตกกังวลให้กับตลาดการเงินทั้งในสหรัฐและต่างประเทศ และได้ฉุดดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงไปกว่า 5% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา แต่สถานการณ์ในรัฐสภาสหรัฐที่เริ่มมีความคืบหน้าขึ้นเมื่อวานนี้ ทำให้ดัชนีดาวโจนส์ดีดขึ้นมาเกือบ 1.7% ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 ก็ปรับตัวขึ้นด้วย

ผลประกอบการที่แข็งแกร่งช่วยหนุนหุ้น IBM พุ่งขึ้น 5.7% หุ้นโคคา-โคลาดีดตัวขึ้น 3.3% ส่วนหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 6% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายไอโฟนและไอแพดเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์

นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นเกินคาดของตัวเลขสร้างบ้านสหรัฐยังช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านทะยานขึ้นด้วย รวมถึงหุ้นดีอาร์ ฮอร์ตัน และหุ้นเลนนาร์ คอร์ป

ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นลงคละเคล้ากันไป โดยหุ้นคีย์คอร์ปพุ่งขึ้น 4.3% หลังจากธนาคารเปิดเผยผลประกอบการเพิ่มขึ้น ขณะที่หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา และหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลงหลังจากธนาคารทั้งสองเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง ส่วนหุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก พุ่งขึ้น 5.6% หลังจากธนาคารเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย. วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนมิ.ย., ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียจะเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนก.ค. ส่วนวันศุกร์ ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ