โบรกฯเชียร์"ซื้อ"TUF คาด Q2/54 เริ่มรับประโยชน์จากควบรวม MW Brands

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 20, 2011 11:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ต่างเห็นพ้องแนะนำ"ซื้อ"หุ้นบมจ.ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์(TUF)คาดในไตรมาส 2/54 บริษัทจะมีผลประกอบกาบดีขึ้นอย่างชัดเจน หลังการควบรวมกิจการ MW Brands เมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งจะส่งผลให้กำไรสุทธิในปี 54 จะเติบโต 33-45% เป็น 3,825-4,200 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,873 ล้านบาท

รวมทั้งจะส่งผลดีในระยะยาวของธุรกิจ ที่ทำให้บริษัทสามารถเจาะตลาดในยุโรปได้ดียิ่งขึ้น ที่เป็นแบรนด์เนมของตัวเอง จากเดิมอาศัยตลาดสหรัฐเป็นตลาดหลัก และมีกองเรือจับทูน่าที่เป็นวัตถุดิบหลักได้มากขึ้น อีกทังยังมีโรงงานกระจายไปตามภูมิภาคต่างๆ

          โบรกเกอร์        คำแนะนำ      ราคาเป้าหมาย(บาท)
          บล.เอเชียพลัส       ซื้อ           73.50
          บล.กสิกรไทย        ซื้อ           65.00
          บล.ดีบีเอสฯ         ซื้อ           62.00
          บล.ฟิลลิป         เทรดดิ้ง         60.00
          บล.กิมเอ็งฯ         ซื้อ           58.50

น.ส.นารี อภิเศวตกานต์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) คาดว่า ในไตรมาส 2/54 TUF จะเติบโตอย่างมากจากการรับผลการควบรวมกิจการ MW Brands และจะส่งผลดีในระยะยาว รวมทั้งบริษัทสามารถปรับราคาขาย โดยเฉพาะสินค้ากุ้ง ตามราคาวัตถุดิบ

"ปีนี้คิดว่าทุกอย่างเป็นปัจจัยบวก ไตรมาส 2 เริ่มทยอยดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็กังวลว่า เงินบาทแข็งค่า มีผลกระทบต่อส่งออก เพราะบริษัทส่งออก 100% แม้ว่าจะมีการนำเข้าวัตถุดิบ" น.ส.นารี กล่าว

ในปี 54 คาดว่า TUF มีกำไรสุทธิ 3,825 ล้านบาท เติบโต 33% จากปีก่อน

อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ เทรดดิ้ง เพราะราคาปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว

ส่วน น.ส.สุทธาทิพย์ พีรทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)กล่าวว่า ในปีนี้ผลประกอบการของ TUF เติบโตดีขึ้นอย่างมาก คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะเติบโต 39% เป็น 4,000 ล้านบาท เป็นผลจากการควบรวมกิจการ MW Brands ในปลายปีก่อน และไตรมาส 2/54 จะไม่มีค่าใช้จ่ายในการควบรวมและจะเห็นผลประกอบการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

การควบรวมกิจการดังกล่าวยังทำให้บริษัททำธุรกิจได้ครบวงจร โดยมีแบรนด์เป็นของตัวเอง ทั้งในตลาดยุโรป และสหรัฐ จากเดิมตลาดหลักอยู่ที่สหรัฐ รวมทั้งยังมีกองเรือจับทูน่า และโรงงานเอง แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจในยุโรปและสหรัฐจะไม่ดี แต่ไม่ได้กระทบบริษัทเนื่องจากเป็นอาหารกระป๋องที่ราคาไม่แพง

นักวิเคราะห์จาก บล.เอเชียพลัส กล่าว แนะนำ"ซื้อ"TUF ในหมวดอาหาร และให้ชะลอการลงทุน CPF และ GFPT จากราคาไก่ปรับตัวลดลง เนื่องจากในปีนี้บริษัทจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลประโยชน์การเข้าควบรวมกิจการ MW Brands เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ TUF เติบโต โดยจะเห็นผลชัดเจนในครึ่งปีหลัง และคาดว่าปีนี้ TUF จะมีกำไรสุทธิ 4,200 ล้านบาท เติบโต 45% จากปีก่อน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ